คำแนะนำ
การเข้าซื้ออาจต้องรอจังหวะการอ่อนตัวลงของราคาค่อยเข้าซื้อ หรือราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,234-1,236 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อทำกำไรบางส่วน แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายออกไป
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,222 1,213 1,205
แนวต้าน 1,236 1,244 1,252
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลงถึง 13.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์หรือคิดเป็น -1% โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ภายหลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ได้กล่าวในระหว่างแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาว่า “เศรษฐกิจสหรัฐกำลังขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วเพียงพอที่จะทำให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้” ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงหลุดแนวรับสำคัญในทางเทคนิคจนกระตุ้นให้เกิดแรงขายเพิ่มเติมส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีบริเวณ 1,225.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวัน สำหรับวันนี้ติดตามการ Testimony เป็นวันที่ 2 ของประธานเฟดต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงติดตามการเปิดเผยตัวเลขการอนุญาตก่อสร้าง, ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐ และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ(Beige Book)ของเฟด 12 เขต
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองย่อตัวลงมาพยายามทรงตัวเหนือระดับ 1,225-1,222 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาอาจเริ่มมีการดีดตัวกลับทุกครั้งเมื่อราคาอ่อนตัวลง แต่หากการดีดตัวกลับของราคายังไม่สามารถกลับไปทดสอบหรือยืนเหนือโซนแนวต้าน 1,234-1,236 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจทำให้เกิดแรงขายซึ่งจะกดดันให้ราคาปรับตัวลงทดสอบแนวรับอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
แนะนำลงทุนในกรอบจากการแกว่งตัวในทิศทางขาลง โดยเข้าเสี่ยงซื้อเมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงและสามารถยืนเหนือโซน 1,225-1,222 ดอลลาร์ต่อออนซ์อย่างแข็งแกร่ง ตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 1,222 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,234-1,236 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น