คำแนะนำ
อาจรอเปิดสถานะขายเมื่อราคาดีดตัวขึ้นมามาใกล้ 1,224-1,226 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากยืน 1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์) หรือหากรับความเสี่ยงได้ไม่มากอาจเลือกชะลอการเข้าซื้อหากถือครองทองคำอยู่แล้ว
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,209 1,200 1,193
แนวต้าน 1,226 1,237 1,246
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดลดลง 4.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปี 2017 บริเวณ 1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ที่ร่วงลงไปทดสอบในระหว่างวันจากการแข็งค่าของดอลลาร์หลังการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด อย่างไรดีสกุลเงินดอลลาร์ลดช่วงบวกลง ส่วนบอนด์ยีลด์สหรัฐดิ่งอย่างหนักในเวลาต่อมา จากการที่ประธานาธิบดีทรัมป์แสดงความไม่เห็นด้วยที่ประธานเฟดระบุว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยปธน.ทรัมป์มองว่าเป็นกำหนดเวลาของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากจะทำให้สหรัฐเสียเปรียบยุโรป และญี่ปุ่น จากการที่เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ธนาคารกลางของญี่ปุ่นและยุโรปยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ประกอบกับดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วง 134 จุดจากความผิดหวังต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ การร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารและความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ และสหภาพยุโรป(EU) สถานการณ์ดังกล่าวหนุนทองคำให้ฟื้นตัวขึ้น ด้านกองทุน SPDR เพิ่มการถือครองทองคำวานนี้ +4.12 ตัน สำหรับวันนี้ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ
ปัจจัยทางเทคนิค
หลังจากราคาพยายามขึ้นไปทดสอบโซน 1,229 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่เพิ่มขึ้นแต่ราคายังไม่สามารถยืนเหนือบริเวณแนวต้านดังกล่าวได้จึงมีแนวโน้มอ่อนตัวลงเพื่อสะสมกำลัง แต่ถ้าสามารถยืนเหนือโซนแนวรับซึ่งอยู่ที่ 1,211-1,209 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ จะเกิดแรงซื้อเข้ามาพยุงราคาไว้
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
เปิดสถานะขายเพื่อทำกำไรในบริเวณ 1,224-1,226 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือถ้าเกิดการอ่อนตัวลงมาอาจปิดสถานะขายหากราคาทองคำไม่หลุด 1,211-1,209 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่สถานะซื้อแนะนำลดพอร์ตการลงทุนลงหากราคาหลุด 1,209 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น