Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับขึ้นต่อเนื่อง โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายเกิด Technical rebound ใน AOT และมีแรงซื้อเด่นในกลุ่มโรงไฟฟ้าอย่าง EA, GPSC, BGRIM, BCPG และกลุ่มการเงินอย่าง TCAP, SAWAD, MTC กลุ่มก่อสร้าง STEC, UNIQ ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,646.8 จุด (+11.0 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.2 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 4.6 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายหุ้นไทยที่ 422 ล้านบาท แต่คงสถานะ Long SET50 index future ที่ 11,671 สัญญา
Investment theme
ธนาคารรายงานผลดีกว่าคาด : 3 ธนาคารใหญ่อย่าง SCB, BBLและ KBANK รายงานผลประกอบการออกมาดีกว่าเราและตลาดคาดสูงกว่า 8-10% ตามลำดับ ถึงแม้จะได้รับผลกระทบจากค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าคาด แต่จากการเติบโตของ Loan growth กว่า 4-6% และรายได้จากการลงทุนที่สูงส่งผลให้กำไรเติบโตดี โดย BBL รายงานกำไร 2Q18 ที่ 9,194 ล้านบาท (+14%YoY,+2%QoQ) จากการเติบโตของสินเชื่อและรายได้จากการลงทุน ในขณะที่ NPL ที่นักวิเคราะห์กังวลปรับลดลงเหลือ 4.04% และ SCB รายงานตัวเลขค่าใช้จ่าย (OPEX) ที่ต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารปรับเป้าค่าใช้จ่าย Cost to Income ขึ้นจาก 43-45% เป็น 45-47% นั้นแสดงถึงค่าใช้จ่ายที่อาจเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง แนะจับตาการรายงานผลประกอบการ KTB โดยนอกเหนือจากกำไรแล้ว การรายงานผลประกอบการของธนาคารซึ่งมีพอร์ตส่วนมากเป็น SME ยังสามารถสะท้อนการเติบโตของเศรษฐกิจ ภาพการบริโภค,การลงทุนและภาคการจ้างงานของประเทศได้ โดยหากรายงานผลประกอบการออกมาดีกว่าคาด เรามองว่านักวิเคราะห์มีโอกาสปรับประมาณการกำไรสุทธิทั้งปีขึ้น เนื่องจากงบ Q1 ก็สูงกว่าคาด เช่นกัน ซึ่งอาจส่งผลบวกต่อการขยับขึ้นของ EPS ของ SET ได้ (ปัจจุบันอยู่บริเวณ 108.9) โดยปัจจุบันคิดเป็น PER18 ที่ 15 เท่า ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง
Investment Theme: วันนี้คาด SET มี Sentiment ที่ดีจากการรายงานผลประกอบการธนาคารที่ดีกว่าคาด สะท้อนมุมมองบวกต่อการลงทุนในกลุ่ม Domestic นำโดย กลุ่มธนาคาร BBL, TISCO กลุ่มค้าปลีก BJC ก่อสร้าง (CK, STEC) และจับตาการ Preview และรายงานผลประกอบการ 2Q18 กลุ่มอื่นๆ
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – ร.ม.ว.คลังคาด 4 ปีหน้า หนี้สาธารณะ/GDP เพิ่มขึ้นเป็น 48% จาก 40.4% ณ.ปัจจุบันหลังลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (กรอบไม่เกิน 60%) /คลังเตรียมเสนอครม.ออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรพักชำระหนี้ / Trump ระบุไม่เห็นด้วยกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED และกล่าวถึงการแข็งค่าของดอลลาร์เมื่อเทียบกับยูโรและหยวนว่าไม่ยุติธรรม
Stock pick : N/A
Trading idea – กลุ่มธนาคารรายงานงบดีกว่าคาดแนะซื้อ BBL 246.0 บาท / เก็งกำไร STEC 25.0 บาท คาดครึ่งปีหลังเด่น/ ทยอยสะสมกลุ่มโรงกลั่น IRPC, TOP / เก็งกำไร BJC คาดผลประกอบการโตเด่น 26% YoY เมื่อเทียบกับกลุ่ม / ทยอยสะสม BEM คาดกำไรเติบโตต่อเนื่องจนถึง Q3 / เก็งกำไร JKN เด่นในช่วงครึ่งปีหลัง / ชะลอการลงทุนกลุ่มโรงแรม คาดได้รับผลกระทบจากการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญอีกครั้ง / ชะลอการลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับไขมันทรานส์ (Bakery, Cake, Donut) /ชะลอการลงทุนใน DDD ส่งออกจีนชะลอตัว
Technical View
แกว่ง Sideway ขึ้นในกรอบ Uptrend ย่อย : ดัชนีแกว่ง Sideway Up จากแรงซื้อหลักกลุ่ม Big Cap. แทบทุกกลุ่ม แนวโน้มระยะสั้นฟื้นตัวในลักษณะ V-Shape ขณะนี้ปรับตัวขึ้นปะทะแนวต้าน Neckline โซน 1650 ซึ่งหากผ่านได้ภาพแกว่งขึ้นต่อจะดูชัดเจนมากขึ้น มองแนวต้านถัดไปที่ 1665 ยังมองว่าจังหวะอ่อนตัวระหว่างวันหากไม่หลุด 1640 ยังเป็นโอกาสซื้อเพื่อล่นการ Break 1650
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : หากยังยืนเหนือ 1640 แนะนำ Trading กรอบ 1640-1665 ผ่าน 1650 เน้นถือต่อ 2) ไม่มีหุ้น : จังหวะอ่อนตัวสู่แนวรับ 1640 หากไม่หลุดมองเป็นโอกาสซื้อเพื่อเล่นรอบในกรอบ 1640-1665
แนวรับ : 1630, 1640 แนวต้าน : 1650, 1665
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: จับตาปัญหา Tradewar
ปัจจัยในประเทศ: สัปดาห์นี้ติดตามการรายงานผลประกอบการ 2Q61 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์
หุ้นเทคนิค:
PTTEP (B 128.00-130.00, Tp 135.00// 138.00, Cut 127.00)
AOT (B 62.00, Tp 65.00, Cut 61.50)
ข่าวเด่น