|
|
|
|
|
|
“Domestic Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Up” ต้าน 1653/1660จุด รับ 1638/1632จุด Trump คัดค้านการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED สะท้อนว่าไม่ต้องการเร่งขึ้นดอกเบี้ย บวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง ผสานซาอุเตรียมปรับลดส่งออกน้ำมันดิบลง 1แสนบาร์เรล/วัน เพื่อลดปัญหา Oversupply หนุนกลุ่มพลังงานต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยในประเทศ งบ 2Q18 กลุ่มธนาคารสดใส หลัง BBL SCB และ KBANK ดีกว่าคาด 9.8% 10.4% และ 22.5% เพิ่มแรงเก็งกลุ่มธนาคารต่อเนื่อง ผสานคลังเตรียมเสนอครม.พักชำระหนี้เกษตรกรกว่า 3 ล้านคน กระตุ้นการบริโภค หนุนกลุ่มค้าปลีกเด่น ดังนั้น วันนี้แนะ Theme “Domestic Play” : CPALL, KBANK, BBL
Nomura : Key Factors
- (+) US: Trump คัดค้านการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED สะท้อนว่าไม่ต้องการเร่งขึ้นดอกเบี้ย
- (+) Oil: ซาอุฯจะทำการปรับลดการส่งออกน้ำมันลงราว 100,000 บาร์เรล/วันในเดือนหน้า
- (*) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +1.02% สู่ $69.46/bbl / BRT -0.44% สู่ $72.58/bbl
- (+) Asia: ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดเอเชีย 5 ใน 8 วันทำการ รวม 136 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
- (+) TH: งบ 2Q18 ของ SCB โตดีกว่าคาด 10.4% และ KBANK ดีกว่าคาดที่ 22.5%
- (+) TH: คลังเตรียมเสนอครม.พักชำระหนี้เกษตรกรที่มีหนี้ไม่เกิน 3แสนบาท กว่า 3 ล้านคน
- (*) Fund Flow:ล่าสุดขายหุ้น-422ลบ.,Long Future +11,671สัญญา,ขายBond-1,043ลบ.
Nomura Daily Top Picks: CPALL, KBANK, BBL
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Up” ต้าน 1653/1660จุด รับ 1638/1632จุด ประธานาธิบดี Donald Trump ออกมาคัดค้านนโยบายการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED อาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ สะท้อน Trump ยังคงต้องการไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย บวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง ผสานปัจจัยบวกจากน้ำมันดิบ หลังซาอุดิอาระเบียจะทำการปรับลดการส่งออกน้ำมันลงราว 100,000 บาร์เรล/วันในเดือนหน้า เพื่อลดความเสี่ยง Oversupply ของน้ำมันดิบในตลาดโลก หนุนราคาน้ำมันดิบแกว่งตัวในขาขึ้นได้ต่อเนื่อง บวกต่อกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้ เรายังคงเห็นสัญญาณบวกจากทิศทาง Fund Flows อย่างต่อเนื่อง โดยต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดเอเชีย 5 ใน 8 วันทำการ รวม 136 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สะท้อนความเสี่ยง Outflows ผ่อนคลาย เพิ่ม Sentiment บวกต่อเอเชียเด่น โดยไทยได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากผลประกอบการ 2Q18 กลุ่มธนาคาร หลังงบ SCB โตดีกว่าคาด 10.4% BBL ดีกว่าคาดที่ 9.8% และ KBANK ดีกว่าคาดที่ 22.5% ทำให้ภาพรวมกลุ่มธนาคารรายงานงบแล้ว 8 บริษัท กำไรรวม 4.4หมื่นล้านบาท ดีกว่าตลาดคาด 10.2% ถ้านับรวมกลุ่มลีสซิ่งและกลุ่มสื่อสาร(DTAC) จะพบว่ารายงานมาแล้ว 12 บริษัท 4.69หมื่นล้านบาท กำไรดีกว่าคาด 10.22% น่าจะเป็นแรงหนุนกลุ่มธนาคารนำตลาดโดดเด่น ผสานมาตรการภาครัฐฯ กระทรวงการคลังเตรียมเสนอครม.พักชำระหนี้เงินต้นลูกหนี้ชั้นดีในกลุ่มเกษตรกรที่มีหนี้ไม่เกิน 3แสนบาท จำนวนกว่า 3 ล้านคน คาดกระตุ้นการบริโภค หนุนกลุ่มค้าปลีกนำตลาดได้อีกแรง
Asset allocation : หุ้น 75% และเงินสด 7.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%
Daily Strategy : ถือหุ้น 75% Sector Rotation เน้นสะสม Domestic Play PTT, IVL, BBL, KBANK, CPALL, ROBINS CK, STEC, SEAFCO, PYLON, AMATA, GOLD, ERW, BH, AOT, ERW และ Global Play (PTT, IVL) วันนี้เน้น “Domestic Play”
- กระทรวงการคลังเตรียมเสนอครม.พักชำระหนี้เงินต้นลูกหนี้ชั้นดี 3ล้านคน วงเงิน 3แสนล้านบาท 3ปี หนุนการบริโภค CPALL, ROBINS เด่น
- กลุ่มธนาคาร 8บริษัท กำไร 4.4หมื่นล้านบาท ดีกว่าคาด 10.2% หนุน KBANK, BBL
- ราคาน้ำมันดิบ BRENT อยู่ในแนวโน้มแกว่งขึ้น PTT, PTTGC, PTTEP นำตลาด
- ททท ปรับเป้ารายได้การท่องเที่ยวปี 2019 ขึ้นจาก 10% เป็น 12% AOT, ERW
- Thailand Future Fund 4.5หมื่นล้านบาท กำลังจะเข้าเทรด 1 ตค หนุนแผนลงทุนรัฐฯ เน้น STEC, CK, PYLON, SEAFCO
- กลุ่มรพ เริ่มได้ประโยชนืจากช่วง Seasonal แนะนำ BCH, BH, BDMS เด่น
- Spread PTA-0.67*PX ทำจุดสูงสุดใหม่ใน 6 ปี ที่ 216.9เหรียญฯ บวกต่อ IVL(TP66)
- BRI Play : ภาครัฐย้ำ EEC จะเป็น Engine growth สำคัญผลักดันไทยไปสู่ Valued driven economy และจะเร่งโครงการเร่งด่วน EEC 6.8 แสนลบ.ให้จบทัน 1Q19FและHispeed เชื่อมโยง 3 สนามบิน น่าจะประมูลปลายปีนี้ หนุน BANK(BBL, KBANK),รับเหมา(CK, STEC PYLON, SEAFCO), นิคม(AMATA, WHA)
- ICT : กสทช แบ่งคลื่น 4G เพื่อให้เหมาะในการประมูล บวกต่อ ADVANC DTAC
- Portfolio Top Picks JULY 2018 แนะนำ AMATA, BBL, CPALL, IVL, STEC, ROBINS, ERW
- 2H18 Theme Domestic : Election play when oil surge : PTT, IVL, BBL, KBANK, CPALL, CK, STEC, SEAFCO, PYLON, AMATA, GOLD
Investment Theme:
2Q18 Theme Domestic : Scent of Election & Domestic Confidence
Best Picks 2Q18 : CPALL, ROBINS, GLOBAL, KBANK, TMB, TOA, AMATA, IVL, IRPC, BH, MONO
1) Consumer & Farm Income Related : CPALL, ROBINS, GLOBAL, MONO, JUBILE, SNC
2) Investment Related : KBANK, BBL, TMB, TOA, SCC, GLOBAL, HMPRO, STEC, CK, PYLON
3) Property : GOLD, LH, AP, SIRI, SC, BLAND
4) Tourism Internal & External Support : BH, BDMS, AOT, ERW, BTS
5) Global Play : IVL, IRPC and eye on PTL, AJ
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
CPALL (TP18F 102*): Support 75.0/74.25 Resistant 76.25/77.5
- Theme: Domestic play
- Earnings Outlook: คาดกำไรสุทธิ 2Q18F โต +14%y-y จากทิศทางธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ที่ยังเติบโตดี โดยSSSG คาด +3.5% ประกอบกับยังคงเปิดสาขาเพิ่มต่อเนื่องคาดเป็น 10,733 แห่ง ณ สิ้น 2Q18F จากโมเดลธุรกิจแข็งแกร่ง สาขาครอบคลุม คืนทุนไว + เน้นด้านอาหาร ซึ่งมั่นคงและ Margin สูง
- Valuation: ราคาหุ้นที่ปรับลงมา 14% ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาตามกลุ่ม Big cap และเม็ดเงินต่างชาติที่ขายหนัก ขณะที่เชิงพื้นฐานยังเติบโตดี 20%y-y เรามองเป็นจุดเข้าลงทุนที่ดี ซื้อขาย PER18F 28x เท่า ยังต่ำกว่าช่วงพีคที่เคยสูง 35x และเป็น Big cap ที่ยังเติบโตดี
- Catalyst: ธกส.มีแนวโน้มพักชำระหนี้และลดดอกเบี้ยกลุ่มเกษตร (วงเงินที่เป็นหนี้ 3 แสนลบ.) หนุนกำลังซื้อกลุ่มรากหญ้า + ราคาหุ้นที่ปรับลงจากแรงขายต่างชาติ แต่พื้นฐานกิจการและความสามารถแข่งขันยังเหมือนเดิม เป็นจุดทยอยลงทุนที่ดี
KBANK (TP18F 223*): Support 196.5/194 Resistant 201/205
- Theme: Domestic Play
- Earnings outlook: คาดกำไรสุทธิ 3Q18F ทรงตัว y-y จากรายได้ดอกเบี้ยทรงตัว ในขณะที่คาดรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยลดลงจาก จากการยกเลิกค่าธรรมเนียมออนไลน์ รวมถึงคาดธุรกิจประกันยังไม่ฟื้นตัวแต่คาดกำไรจะฟื้นตัวเด่นใน 4Q18F จากการตั้งสำรองลดลง และโตต่อใน 2019F +20% y-y
- Valuation: ราคาหุ้นลดลง 17%YTD ถือว่าตอบรับหลายปัจจัยกังวลก่อนหน้านี้ไปมากแล้ว และอยู่ในจุดที่ Valuation น่าสนใจแล้ว มี PBV ปี 2018F ต่ำเพียง 1.28x หรือคิดเป็น ค่าเฉลี่ย – 1.5SD (Mean 1.71x) เป็นจุดต่ำสุดรอบหลายไตรมาส
- Catalyst: ประกาศกำไรดีกว่าตลาดคาด 23% + มองกลุ่ม Bank เป็นกลุ่มที่สามารถนำตลาดได้จากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น หลังตลาดตอบสนองผลจากการลดค่าธรรมเนียมแรงเกินไป แต่ผลการดำเนินงานยังออกมาดี + ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นเอื้อประโยชน์ต่ออัตรากำไรกลุ่มฯ
BBL (TP18F 244*) : Support 190.5/188.5 Resistant 195.0/198.5
- Theme: Domestic Play
- Earnings Outlook: กำไรสุทธิ 2Q18 +14% y-y จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยตามสินเชื่อที่โตเด่น +3.1% YTD ในขณะที่ NPL ลดลง ประกอบกับรายได้ค่าธรรมเนียม กำไรจาก trading and fx และกำไรจากเงินลงทุนที่ดีกว่าคาด นอกจากนี้คาดว่ากำไรจะเติบโต y-y ได้ในทุกไตรมาสที่เหลือ
- Valuation: ราคาหุ้นกลุ่ม BANK ที่ YTD -12% vs SET -7.4% ถือว่าสะท้อนปัจจัยกดดันไปมากแล้ว มองเป็นจุดซื้อที่มี Downside ต่ำหวัง Rebound โดย BBL มีผลกระทบจากการลดค่าธรรมเนียมน้อยสุดและมี PBV18F เพียง 0.86x (ค่าเฉลี่ย – 0.5 SD) และต่ำกว่ากลุ่มมาก (1.4x)
- Catalyst: กำไรสุทธิดีกว่าเราและตลาดคาด + มองกลุ่ม Bank เป็นกลุ่มที่สามารถนำตลาดได้จากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น หลังตลาดตอบสนองผลจากการลดค่าธรรมเนียมแรงเกินไป แต่ผลการดำเนินงานยังออกมาดี + ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นเอื้อประโยชน์ต่ออัตรากำไรกลุ่ม
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura) |
บันทึกโดย : Adminวันที่ :
20 ก.ค. 2561 เวลา : 10:06:25
|
|
|
|
|
ข่าวเด่น