ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องท่ามกลางการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ จากการที่ค่าเงินหยวนปรับอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว ดูสงครามการค้าจะเป็นลักษณะการใช้เครื่องมือทางการเงินหรืออัตราแลกเปลี่ยนมาเป็นตัวต่อสู้ ขณะที่เงินหยวนอ่อนค่าลงจากระดับ 6.77 ดอลลาร์/หยวน และเช้านี้ขึ้นมาที่ 6.82 ดอลลาร์/หยวน จึงเป็นตัวผลักดันให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานเฟดเมื่อคืนนี้ออกมาตำหนิเฟดที่ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า หรือทำให้สหรัฐฯเสียเปรียบทางการค้า จึงทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงมาบ้าง ทางด้านเงินบาทอ่อนค่าขึ้นไปที่ 33.52 บาท/ดอลลาร์โดยประมาณ ก่อนจะอ่อนมาที่ 33.41 บาท/ดอลลาร์ และเช้านี้กลับไปแถว 33.52 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ทองคำทำจุดต่ำสุดแถว 1,212 เหรียญโดยประมาณ ก่อนที่จะมาที่ระดับ 1,226 เหรียญ และค่อยๆปรับตัวลงต่อในเช้าวันนี้ สำหรับกองทุน SPDR มีการเข้าซื้อทอง 4.12 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 798.13 ตัน

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค 

ราคาทองคำทำจุดต่ำสุดใหม่แถว 1,212 เหรียญ ก่อนจะมี Technical Reboundขึ้นมาแถว 1,226 เหรียญ และเช้านี้มีการเปิดเหนือ 1,220 เหรียญ ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคเป็นแนวโน้มขาลง และโดยภาพรวมของราคาทองคำเป็นลักษณะของ Oversold ค่อนข้างมาก และมีแนวโน้มหลักเป็นขาลง แนวรับสำคัญของทองคำจะอยู่ที่ 1,200 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสำคัญทางจิตวิทยา จึงเน้นย้ำให้ใช้กลยุทธ์ขาลงเป็นหลัก ซึ่ง Gold-D และ Gold Comex วันนี้คาดว่าจะเห็นราคาเคลื่อนไหวในกรอบ 1,212 – 1,230 เหรียญเช่นกัน 

โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ 

เก็งกำไรขาลงตามการแกว่งตัวในกรอบ 1,212 – 1,230 เหรียญ 

- นักลงทุนที่ถือ Long Position  

หาจังหวะปิดสถานะเพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะขาลงตลาด

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ปิดทำกำไรเป็นช่วงๆเมื่อราคาอ่อนตัว เน้นทำกำไรขาลง

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

แนวโน้มหลักของราคาทองคำยังเป็นขาลง จึงแนะนำให้ใช้กลยุทธ์ขาลงเป็นหลัก

Gold Futures Q18 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,360  บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,560  บาท