Market Summary 20/07/2018
Close
|
1,671.06
|
Volume
|
Bt67270M
|
Change
|
24.17
|
P/E
|
17.05
|
%Change
|
1.47%
|
P/BV
|
1.91
|
หุ้นแนะนำพิเศษ
PTTEP (ราคาปิด 133.5 Bloomberg 144.47)
- ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเหนือ 70 $/bbl หลังซาอุดิอาระเบียเตรียมลดการส่งออกน้ำมันในเดือนหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะอุปทานน้ำมันในตลาดที่สูงเกินไป
- การขายแหล่งผลิตมอนทาราในออสเตรเลียคาดว่าจะช่วยหนุนให้ผลประกอบการปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากแหล่งดังกล่าวมีต้นทุนการผลิตที่สูงทำให้รับรู้ผลขากทุนจากแหล่งผลิตดังกล่าวมาโดยตลอด (ต้นทุนการผลิตสูงถึง 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลและค่าเสื่อมราคาสูงถึง 37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปี 2017 ขณะที่ค่าเฉลี่ยต้นทุนการผลิตของบริษัทอยู่ที่ 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล)
- Bloomberg Consensus คาดผลประกอบการปี 61 อยู่ที่ 41.1 หมื่นล้านบาท +100%YoY เนื่องจากคาดว่ากำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้น 2 KBD สู่ 302 KBD และราคาจำหน่ายก๊าซฯ ปรับตัวขึ้นจาก 5.6 $/mmbtu สู่ 6.2 $/mmbtu ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น 7.6% QoQ สู่ 63 $/bbl นอกจากนี้ยังมีการปรับราคาจำหน่ายก๊าซฯ ในพม่าเพิ่มเติม ขณะที่ต้นทุนการผลิตคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ 30 $/bbl
ส่องหุ้น
DOD แนวรับ 13.40 , 13.10 บาท แนวต้าน 13.90 , 14.50-14.70 บาท
PSTC แนวรับ 0.67-0.66 บาท แนวต้าน 0.70-0.72 บาท
SUPER แนวรับ 0.77-0.76 บาท แนวต้าน 0.80-0.83 , 0.88-0.91 บาท
หุ้นมีข่าว (ต่อ)
- ประเด็นบวกกลุ่มรับเหมา รมว.คมนาคม เตรียมชงโครงการรถไฟความเร็วสูงกทม.-เชียงใหม่ให้ครม.เดินหน้าหลังหารือทางการญี่ปุ่นแล้ว
- TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย คาดทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง 2561 จะเติบโตดีโดยเฉพาะไตรมาส 4/2561 ซึ่งเป็นไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว อีกทั้งช่วงที่ผ่านมาเหตุการณ์ทีมหมูป่าติดถ้ำทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวสนใจเดินทางมาที่จังหวัดเชียงรายมากขึ้นซึ่งบริษัทน่าจะได้อานิสงส์ด้วย (ที่มา ทันหุ้น)
- GPSC พร้อมให้ กกพ. ตรวจสอบการผูกขาดกิจการไฟฟ้า หลังเตรียมเข้าซื้อหุ้น GLOW คาดใช้เวลาไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ ระบุเบื้องต้นไม่เข้าข่ายผูกขาด เพราะหลังควบรวมมีกำลังผลิตแค่ 4,000 MW (ที่มาข่าวหุ้น)
- MK (ราคาปิด 4.58) ราคาปัจจุบันที่ปรับขึ้นกว่า 47%MTD ยังต่ำกว่า BV ที่ระดับ 6.66 บาทต่อหุ้น
Market View : กังวลสงครามการค้า
หุ้นแนะนำพิเศษ : PTTEP
หุ้นมีข่าว : KBANK TMB MK
Technical Insight : BJC TOP
SET Index วานนี้ปรับตัวขึ้นแรงต่อเนื่องตลอดวันทำการ แกร่งกว่าตลาดหุ้นต่างประเทศหลายแห่งที่มีทั้งบวกและลบ นำโดย ENERG ที่ยังคงถูกผลักดันโดยการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน ส่วน BANK มีปัจจัยหนุนจากการรายงานงบ 2Q61 ที่มากกว่าคาด ตามมาด้วย FOOD จากค่าเงินบาทอ่อนค่า ทำให้ SET Index ปิดที่ 1,671.06 จุด (+24.17 จุด) Volume 6.73 หมื่นลบ. มาจาก Foreign Net +979.36 ลบ. TFEX Net +11,087 สัญญา ตราสารหนี้ -4,789.68 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+น้ำมันดิบปิดบวกจากซาอุดิอาระเบียเตรียมลดการส่งออกน้ำมันในเดือนหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะอุปทานน้ำมันในตลาดที่สูงเกินไป
+พาณิชย์ เผยส่งออก มิ.ย.ขยายตัว 8.19% นำเข้าโต 10.83% เกินดุล 1,578 ล้านเหรียญฯ
+สศก.เผย GDP เกษตร Q2/61 โต 6.2% คาดทั้งปีโต 3-4% จากสภาพอากาศและน้ำเอื้อต่อการผลิต
-"ทรัมป์"ขู่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงินสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์ หากมีความจำเป็น
-ดาวโจนส์ปรับตัวลดหลังทรัมป์ขู่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงินสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์ หากมีความจำเป็น
-เมื่อวันศุกร์เงินหยวนอ่อนค่า 7.6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์นับตั้งแต่สิ้น 1Q61 ต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปีหลังธนาคารกลางจีนลดค่ากลางเงินหยวนลงเป็นวันที่ 7 ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อตลาดเงินทั่วโลก
-อียู เม็กซิโก และแคนาดา ขู่จะตอบโต้สหรัฐฯ หากทำเนียบขาวเก็บภาษีชิ้นส่วนและรถยนต์
-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 1.97 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 33.30 บาท/US
ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีปัจจัยกดดันจากความกังวลสงครามการค้าโลกที่ยังยืดเยื้อ แต่ราคาน้ำมันที่ปิดบวกต่อและงบการเงินกลุ่มแบงก์ใหญ่ที่ดีกว่าคาด และการเข้าเก็บหุ้นโดยกองทุนในปท.และนลท.ต่างชาติจะช่วยพยุงดัชนีได้ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,660-1,679จุด
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- KBANK BBL SCB KKP ประกาศผลประกอบการออกมาดีกว่าคาด
- คาดผลประกอบการเติบโต 2Q61 BANPU BPP IVL JUBILE DELTA SVI CPF LH TPIPP WHAUP
- CPALL ROBINS HMPRO BEM ครม.คง VAT ที่ 7% อีก 1 ปี
- หุ้น Low Beta - High Div. : DIF DRT MC LH GLOW TCAP SCB KTB SAT
- SVI DELTA CPF GFPT กลุ่มส่งออก ค่าเงินบาทอ่อนค่าสู่ 33.30 บาท/US
หุ้นมีข่าว
KBANK Analyst Meeting (ราคาปิด 210 Bloomberg Consensus 216.82)
- กำไร 2Q61 เท่ากับ 10,917 ลบ. +21%yoy ดีกว่าคาดของ Bloomberg 23% กำไร 1H61 21,682 ลบ. +13% ผลกระทบจากบริการฟรีธุรกรรมผ่านช่องทาง digital น้อยกว่าคาดเนื่องจากพฤติกรรมลูกค้าไม่เปลี่ยนแปลงมาใช้ช่องทาง digital อย่างมีนัยสำคัญ คุณภาพสินทรัพย์ไม่น่ากังวล %NPL 3.29% ทรงตัวเมื่อเทียบกับปลายปี 60 NPL เกิดใหม่ค่อนข้าง stable Coverage Ratio ปลายมิ.ย.61 เท่ากับ 150% ดีขึ้นเล็กน้อยจาก 148% ณ ปลายปี 60 (มีต่อ)
- ความเห็น NPL ที่เริ่ม stable และการเลื่อนเวลาบังคับใช้มาตรฐานบัญชี IFRS9 ลดแรงกดดันในการตั้งสำรองหนี้สูญในช่วงเวลาที่เหลือ ซึ่งเชื่อว่าจะชดเชยการลดลงของรายได้ที่ไม่ใช่ดบ.ในส่วนของรายได้การรับประกันภัยสุทธิและรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิในการยกเลิกเก็บค่าธรรมเนียมโอนเงินผ่านช่องทาง digital เชื่อว่าจะเห็นผลการดำเนินงานปี 61 เติบโตจากปีก่อนหน้า
TMB Analyst Meeting (ราคาปิด 2.24 Bloomberg Consensus 2.77)
- ผลการดำเนินงานในช่วง 1H61 เมื่อเทียบกับเป้าหมายทางการเงิน ผู้บริหารประเมินว่าการเติบโตของสินเชื่อคุณภาพช้ากว่าที่คาดโดยเติบโต 1.6%YTD เทียบกับเป้า 8-10% ขณะที่สินเชื่อหลักเป็นสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (+7%YTD) และสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ (+4%YTD) ขณะที่สินเชื่อ SME ขนาดกลางเพิ่งจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป (-10%YTD) ทำให้ loan yield ลดเหลือ 4.92% จาก 5.2% ใน 1H60 และส่งผลให้ NIM ลดเหลือ 3.01% จากระดับ 3.19% และรายได้ดบ.สุทธิลดลง 2%YoY คุณภาพสินทรัพย์ไม่น่ากังวล %NPL ทรงตัวที่ 2.37% เทียบกับ 2.35% ณ ปลายปี 60 Coverage ratio 140%
- กลยุทธ์การเป็น Transactional Bank ไม่เก็บค่าธรรมเนียมโอนเงินทำให้สัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมมีสัดส่วนเพียง 2% ลดลงจาก 17% ในปี 2555 รายได้ค่าธรรมเนียม 2Q61 อย่างไรก็ดี รายได้ค่าธรรมเนียมที่เติบโต 7% เทียบกับเป้าทั้งปีที่ 15-20% อาจทำได้ไม่ถึงเป้า
- ความเห็น กำไร 2Q61 ที่ต่ำกว่าคาดการณ์ของ Bloomberg 9% ทำให้คาดว่า consensus มีแนวโน้มปรับประมาณการกำไรปี 61 ลดลงจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่ทำได้ต่ำกว่าเป้า จึงน่าจะเห็นการเติบโตของกำไรปี 61 ลดลงจากปัจจุบันที่ 9.6 พันล้านบาท +10%
- KKP (ราคาปิด 73 Bloomberg Consensus 79.03) เปิดเผยว่าใน 2Q61 มีกำไรสุทธิ 1,551 ล้านบาท ใกล้เคียงกับคาดการณ์ของ Bloomberg consensus +31%yoy + 2.5%qoq กำไรเบ็ดเสร็จรวมผลจากการวัดมูลค่าหลักทรัพย์เผื่อขายในตลาดทุน 1,125 ล้านบาท -20.6%yoy -23.8%qoq สินเชื่อครึ่งปีแรกของปี 2561 ขยายตัว 10.2%ในทุกประเภทรวมถึงสินเชื่อเช่าซื้อที่ขยายตัวต่อเนื่องที่ 2.8%YTD ด้านคุณภาพของสินเชื่อดีขึ้น %NPL ปรับลดลงต่อเนื่องเหลือท4.5% จาก 5% ณ สิ้นปี 2560 กำไรในช่วง 1H61 3,063 ล้านบาท +13%
- ประเด็นบวกกลุ่มรับเหมา รมว.คมนาคม เตรียมชงโครงการรถไฟความเร็วสูงกทม.-เชียงใหม่ให้ครม.เดินหน้าหลังหารือทางการญี่ปุ่นแล้ว
ข่าวเด่น