คำแนะนำ
ยังมีลุ้นที่ราคาทดสอบแนวต้านโซนที่ 1,235-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยให้ดูแรงซื้อแรงขายในช่วงนี้เพื่อประกอบการตัดสินใจ แต่หากราคาอ่อนตัวลงสามารถยืนเหนือ 1,215-1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้เสี่ยงซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,211 1,200 1,193
แนวต้าน 1,237 1,248 1,259
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 7.11 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจากแรงซื้อเก็งกำไร หลังนักลงทุนมองว่าการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ วิจารณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะไม่ส่งผลต่อแผนการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอีก 2 ครั้งในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ เพื่อแสดงถึงความเป็นอิสระของเฟดในการกำหนดนโยบายการเงิน สถานการณ์ดังกล่าวกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ ขณะที่สงครามทางคำพูดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทวีตข้อความเตือนนายฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่านว่า “อย่าได้ข่มขู่สหรัฐอีกแม้แต่ครั้งเดียว” เพื่อตอบโต้นายรูฮานีที่กล่าวว่า นโยบายที่มุ่งร้ายต่ออิหร่านอาจจะนำไปสู่ “"The mother of all wars" ส่งผลหนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้ไม่มากนัก แต่หากเหตุการณ์ดังกล่าวทวีความรุนแรงมากขึ้นอาจส่งผลหนุนราคาทองคำในระยะถัดๆไป ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม +4.42 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ รวมถึงดัชนีภาคการผลิตจากเฟดริชมอนด์
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,235-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ทำให้เกิดการอ่อนตัวลง โดยประเมินแนวรับบริเวณที่ 1,215-1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถยืนเหนือโซนแนวรับดังกล่าวได้ประเมินว่าเป็นเพียงแรงขายทำกำไรระยะสั้นซึ่งอาจจะเห็นการดีดตัวขึ้นอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
แนะนำลงทุนในกรอบราคา โดยเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงและสามารถยืนเหนือโซน 1,215-1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง แต่ตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแบ่งขายทำกำไรหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,235-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น