กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings Play//Accumulate on Dip

  ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ในช่วงครึ่งเช้าก่อนที่ภาคบ่ายจะมีแรงซื้อเข้ามาหนุนให้ดัชนีบวกได้ค่อนข้างดี อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นยังติดแนวต้านบริเวณ 1,680 จุดและมีแรงขายออกมากดดันทำให้ดัชนีปิดบวกแคบลงเหลือ 4.69 จุด ณ สิ้นวัน นักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันและเร่งขึ้นเป็น 1.6 พันลบ. และยัง Net Long ใน Index Futures อีก 5.3 พันสัญญา
  แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET Index คาดว่าจะแกว่งตัว Sideways พักฐานเนื่องจากไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้น นักลงทุนยังคงจับตาดูพัฒนาการของประเด็นสงครามการค้าหลังการประชุม G20 ไม่มีข้อสรุปแต่เน้นย้ำว่าต้องเร่งหารือลดข้อพิพาททางการค้า และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการประกาศผลประกอบการ 2Q18 ของบริษัทจดทะเบียนฝั่ง Real Sector ที่จะทยอยออกมาในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า ทำให้ระยะนี้เรายังมองว่าหุ้นที่มีกำไรโตโดดเด่นจะยังเคลื่อนไหว Outperform ตลาด 
  กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดผลประกอบการ 2Q18 แข็งแกร่ง //สะสมหุ้นพื้นฐานเพิ่มในช่วงอ่อนตัว
  หุ้นเด่นเดือนก.ค. : BANPU, CPF, EPG, PTTEP, TISCO  

  Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$210ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$213ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลเข้า US$48ล้าน ขณะที่ไหลออกเกาหลีใต้ US$82ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค ความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้าหลายประเทศกลับมาอีก

ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> SC <<

• แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 4.80 บาท
• คาดกำไรสุทธิ 2Q18 ที่ 440 ลบ. +70% Q-Q, +66% Y-Y จากการเน้นโอนแนวราบที่ตัวเองถนัด และมีโอนคอนโดใหญ่อย่าง Saladeaeng One มูลค่า 4.7 พันลบ.
• แนวโน้มกำไร 2H18 ยังดีต่อเนื่อง จากการโอนคอนโด Luxury 1 แห่ง และเปิดตัวแนวราบมากถึง 15 แห่ง รวมถึงคอนโดอีก 1 แห่ง มูลค่ารวม 1.6 หมื่นลบ.
• PE2018-2019 ต่ำเพียง 7-8 เท่า และปันผลสูง 5-6% ต่อปี

ประเด็นสำคัญวันนี้
  (0) กลุ่มบันเทิง เม็ดเงินโฆษณารวม 2Q18 +10.3% Q-Q, +4.6% Y-Y จากปัจจัยฤดูกาล และบอลโลกช่วยหนุน แต่ไม่ค่อยมีอานิสงค์ต่อบริษัทในตลาดฯ เราคาดกำไรปกติ 2Q18 กลุ่ม Media (8 บริษัทใน Coverage) ฟื้นสูง Q-Q แต่ยังอ่อนลงเล็กน้อย Y-Y ตามผลการดำเนินงานของ BEC ที่คาดขาดทุน ลดลง Q-Q และ WORK กำไรลดลงมาก Y-Y ขณะที่คาด RS JKN VGI (1Q19) และ PLANB มีกำไรปกติโตสูง Y-Y ตามลำดับ และ MAJOR คาดกำไรปกติโตกระโดด Q-Q แต่เพิ่มไม่มาก Y-Y แนวโน้มในครึ่งปีหลังของกลุ่มเรามองฟื้น Y-Y จากฐานต่ำปีก่อน โดยคาด RS PLANB  VGI โตเด่นต่อเนื่อง  และคงนำหนักการลงทุนกลุ่มเพียง Neutral Top Pick คือ RS (TP 23 บ.) ตามด้วย PLANB (TP 7.1 บ.) และ JKN (TP 12.5 บ.)
  (+) กลุ่มท่องเที่ยว จำนวนนักท่องเที่ยวเดือน มิ.ย. 2018 อยู่ที่ 3 ล้านคน +11.6% Y-Y (เร่งจากเดือน พ.ค. ที่ +6.4% Y-Y) นักท่องเที่ยวรัสซียยัง -16.2% Y-Y จากผลของฟุตบอลโลก แต่ชดเชยได้หมดจากจีนและอาเซียนที่โตเร่งตัวขึ้น +18.1% Y-Y และ +13.6% Y-Y ตามลำดับ ส่งผลให้ยอดรวมช่วง 6M18 อยู่ที่ 19.5 ล้านคน +12.5% Y-Y (เป้าทั้งปี 37 ล้านคน +5% Y-Y) แม้แนวโน้มกำไรของกลุ่มใน 2Q18 จะไม่โดดเด่น คาด -58.4% Q-Q จาก Low Season และทำได้เพียงทรงตัว Y-Y แต่คาดว่าการเติบโตจะกลับมาโดดเด่นอีกครั้งใน 4Q18 เป็นต้นไปจากการเข้า High Season และการกลับมาของนักท่องเที่ยวรัสเซีย เรายังเลือก ERW เป็น Top Pick ราคาเป้าหมาย 9 บาท 
  (0) SCB ที่ประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ให้ความสนใจต่อแนวโน้มค่าใช้จ่าย ซึ่งผู้บริหารคาดว่าน่าจะเห็น Peak ในอีกไม่กี่ไตรมาสนี้ (เราคาดว่าน่าจะเห็นใน 4Q18) ซึ่งนั่นทำให้ธนาคารปรับเพิ่มเป้าหมาย C/I เป็น 45-49% จากเดิมที่ 42-45% หลังจากนั้นเมื่อการลงทุนสิ้นสุดในปี 2021 เป็นต้นไป อัตราส่วน C/I น่าจะลงมาต่ำกว่า 30% ซึ่งนั่นเป็นข่าวที่ดีต่อการลงทุนระยะยาวแม้ว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก เราคงคาดการณ์กำไรปี 2018 ที่ 4.12 หมื่นลบ. (-4%Y-Y) โดยแนวโน้มใน 2H18 มีทิศทางชะลอตัวลง H-H จากค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาลและการเร่งตัวของการลงทุน Transformation ซึ่งรวมไปถึงค่าใช้จ่ายด้านการตลาดด้วย เราคงราคาเหมาะสมที่ 142 บาท แนะนำถือ (เดิม ซื้อ) เพราะ Upside แคบลง
  (+) BBL การประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้มีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของสินเชื่อที่แข็งแกร่งต่อเนื่องจาก 2Q18 จากความต้องการสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นของภาคธุรกิจซึ่งเป็นสินเชื่อระยะยาว และสินเชื่อกิจการต่างประเทศ นอกจากนี้ BBL มีแนวโน้มจะตั้งสำรองฯน้อยลงในครึ่งปีหลังเนื่องจากคุณภาพหนี้ที่ดีขึ้นและการเลื่อนใช้เกณฑ์มาตรฐานบัญชีIFRS9 มีเพียงแนวโน้มรายได้ Bancassurance fee ที่อาจต่ำกว่าที่เราคาดไว้เนื่องจากการล่าช้าของระบบการขายและผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่หลากหลาย เราคงประมาณการกำไรปี 2018 ที่ 3.57 หมื่นลบ. +8%Y-Y และคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสม 232 บาท
  (+) BJC แนวโน้มกำไรสุทธิ 2Q18 จะเติบโตดี 38% Y-Y และอาจแผ่วลงเล็กน้อย -4.9% 
Q-Q อยู่ที่ 1,374 ลบ. แต่ถ้าไม่รวมขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนและกำไรขายเงินลงทุนใน 1Q18 กำไรปกติจะกลายเป็นเติบโต 4.7% Q-Q ทำได้ดีสวนทางกลุ่มค้าปลีก โดยคาดเห็นการเติบโตของทั้ง 4 ธุรกิจหลัก และยังรักษาระดับความสามารถทำกำไรได้ดีต่อเนื่อง รวมถึงการลดลงของอัตราภาษีจ่าย โดยคาดจะเห็นการลดลงมากขึ้นในช่วง 2H18 ซึ่งอาจทำให้แนวโน้มกำไร 3Q18 ไม่แผ่วลงตามฤดูกาล และคาดกำไรจะโตต่อและทำจุดสูงสุดของปีใน 4Q18 เรายังคาดกำไรสุทธิปี 2018 +26% Y-Y เป็น 6,567 ลบ. และคงราคาเป้าหมายปีนี้ที่ 61 บาท แนะนำซื้อ 
  (+) ORI คาดการณ์กำไรปกติ 2Q18 ที่ 730 ลบ. +49% Q-Q, +206% Y-Y หนุนจากยอดโอนที่คาดเป็น 3.3 พันลบ. จากการเริ่มโอนโครงการใหม่อีก 4 แห่ง และความสำเร็จของการระบายสต็อคจากแคมเปญโปรเหนือเมฆ ขณะที่โมเมนตัมกำไร 2H18 คาดเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง จากการโอน Park 24 เฟส 2 และเริ่มโอนคอนโดใหม่อีก 2 แห่ง คงคาดกำไรปกติปี 2018 โตแรง +108% Y-Y อยู่ที่ 2,865 ลบ. และคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 25.40 บาท

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

(0) ตลาดสหรัฐปรับตัวผสมผสาน โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มการเงินและเทคโนโลยี จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี กลับมาเข้าใกล้ระดับ 3% อีกครั้ง 
(-) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง นำโดยหุ้นในกลุ่มรถยนต์จากการลาออกของผู้บริหาร 
(0) ตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมผสาน โดยประเด็นที่ต้องติดตามคือการปรับเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นซึ่งอาจนำไปสู่การไหลกลับของเงินทุนทั่วโลกสู่ตลาดพันธบัตรในประเทศญี่ปุ่นมากขึ้น
(-) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.40-33.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. ลดลง 0.37 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 67.89 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลเรื่องอุปสงค์ที่อาจลดลงจากทั้งสงครามทางการค้าและราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้า
() ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ลดลง 5.50 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1225.60ดอลลาร์/ออนซ์