คำแนะนำ
แนะนำติดตามการเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิดโดยเน้นการเก็งกำไรในกรอบ 1,211-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาสามารถยืนเหนือโซนแนวรับโซน 1,215-1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ทำให้ราคายังคงมีโอกาสขยับขึ้นทดสอบแนวต้านอีกครั้ง
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,211 1,200 1,193
แนวต้าน 1,237 1,248 1,259
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดทรงตัว ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักหลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจบางรายการที่อ่อนแอเกินคาด อาทิ ดัชนีราคาบ้านที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด นอกจากนี้การคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะลดการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินยังเป็นอีกปัจจัยที่กดดันดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน อย่างไรก็ดีแรงซื้อในตลาดทองคำยังไม่มากนัก เห็นได้จากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำอยู่เพียงในกรอบ ประกอบกับดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น197.65 จุด ส่วนดัชนี S&P500 ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีนี้ ขานรับผลประกอบการของบริษัทอัลฟาเบทที่สดใส อีกทั้งหุ้นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตรพุ่งขึ้นหลังจากรัฐบาลสหรัฐมีแผนที่จะให้ความช่วยเหลือคิดเป็นวงเงิน 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการที่ประเทศอื่นเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้าเกษตรของสหรัฐ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวกดดันการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ และจับตาการหารือกันระหว่างประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC)และปธน.ทรัมป์ที่ทำเนียบขาวในวันนี้ในประเด็นการค้า,นโยบายต่างประเทศ, ความมั่นคงและเศรษฐกิจ
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำปรับตัวลงมาพอเข้าใกล้โซนแนวรับ 1,215-1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และมีแรงดีดกลับสั้นๆ เบื้องต้นอาจต้องระวังแรงขายกลับลงมาอีกครั้งหากราคายังไม่มีแรงซื้อมากพอหรือมีปัจจัยใหม่มาดันราคาขึ้น โดยประเมินแนวต้านที่ 1,235-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
ดูบริเวณ 1,215-1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่หลุดสามารถเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น เพื่อขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,235-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาผ่านได้ให้รอดูบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,248 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น