Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับขึ้นเด่น โดยเป็นการกระจายซื้อในหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวนำโดย PTT, AOT กลุ่มค้าปลีกอย่าง CPALL, BJC, ROBINSโรงพยาบาล BH, BDMS กลุ่มรถไฟฟ้า BEM, BTS กลุ่มการเงินธนาคาร MTC, TCAP และกลุ่ม QH, LH, HMRPO ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,690.0 จุด (+15.8 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 5.6 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายหุ้นไทยที่ 330 ล้านบาท แต่คงสถานะ Long SET50 index future เป็นวันที่ 6 ที่ 12,830 สัญญา (รวม 6 วันสูงกว่า 5.8 หมื่นสัญญา)
Investment theme
สหรัฐ-ยุโรปเปิดทางการเจรจาการค้า: ภายหลังจากปธน. Trump ได้ออกมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าหลายพันรายการ วงเงินหลายหมื่นล้านสหรัฐกับนานาประเทศ ส่งผลให้ผู้ประกอบการในสหรัฐ-จีน เริ่มได้รับผลกระทบบางส่วน และคาดจะขยายเป็นวงกว้างตามประเภทอุตสาหกรรม ทำให้ยอดขายสินค้าลดลงและราคาต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรที่ลดลง ล่าสุดกระทรวงเกษตรสหรัฐเตรียมออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ในการช่วยซื้อสินค้าส่วนเกินดังกล่าวเป็นวงเงิน 1.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่จีนเองก็หันลดพึ่งพิงการส่งออก ผ่านการกระตุ้นการลงทุนและการบริโภคในประเทศมากขึ้น เบื้องต้นเราประเมินว่าการกระทำจากฝั่งสหรัฐเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และอาจหมายถึงการที่ทั้ง 2 มหาอำนาจยังไม่มีท่าทียอมยกเลิกภาษีดังกล่าว โดยเราแนะนักลงทุนจับตาการทำประชาพิจารณ์ใหญ่สหรัฐก่อนขึ้นภาษีครั้งที่ 3 วงเงิน 2.0 แสนล้านเหรียญในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนทีผ่านมาเริ่มเห็นสัญญาณที่ดี ภายหลังสหรัฐ-ยุโรปยอมเปิดทางพูดคุยการเจรจา โดยยุโรประบุจะซื้อ ถั่วเหลือง- LNG จากสหรัฐพร้อมชะลอการขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ออกไป
Investment Theme: ภายหลัง SET สามารถ Break กรอบแนวต้านสำคัญที่ 1,690 จุด มี Sentiment ที่ดีจากการรายงานผลประกอบการธนาคารที่ดีกว่าคาด สะท้อนมุมมองบวกต่อการลงทุนในกลุ่ม Domestic นำโดย กลุ่มธนาคาร BBL, TISCO กลุ่มค้าปลีก BJC ก่อสร้าง (CK, STEC) พร้อมแนะลงทุนหุ้นที่คาดผลประกอบการ 2Q เด่น และมีปันผลระหว่างกาล พร้อมราคาที่ไม่แพงอย่าง PTTGC
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – เยอรมันรายงาน PMI ภาคบริการเดือน ก.ค.ชะลอตัวที่ 54.4 / BDI ปรับขึ้นต่อเนื่องที่ 1,774 จุด (เพิ่มขึ้น 56 จุดจากวันก่อนหน้า) / Brent ปรับขึ้นที่ 73.9 เหรียญภายหลังรายงานสต๊อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาดที่ 6.1ล้านบาร์เรล
Stock pick : SCC
SCC ปรับเพิ่มคำแนะนำ ซื้อราคา 500.0 บาท/หุ้น
- บริษัทรายงานผลประกอบการ 2Q18 สูงกว่าคาดเล็กน้อยที่ 1.24 หมื่นล้านบาท สนับสนุนจากความต้องการปูนในประเทศปรับขึ้น 2%YoY ในขณะที่ผู้บริหารและเรามีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการ 2H ในธุรกิจปูนจากโครงการอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน ส่งผลให้ภาพรวมคาดแนวโน้มปูนซีเมนต์จะเติบโต 1-3% และธุรกิจปิโตรฟื้นในไตรมาส 3 (หนุน HDPE, PP และ Naptha แนวโน้มลดลง)
- ปรับเพิ่มคำแนะเป็นซื้อ โดยบริษัทประกาศจ่ายปันผลครึ่งปี 8.50 บาท (ทั้งปีรวม Yield 4.3%) คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสม 500.0บาท
Trading idea – กลุ่มธนาคารรายงานงบดีกว่าคาดแนะซื้อ BBL 246.0 บาท / เก็งกำไร STEC 25.0 บาท คาดครึ่งปีหลังเด่น / ทยอยสะสม BCP, IRPC เราประเมิน Downside จำกัด / ทยอยสะสม BEM เป้าหมาย 9.0 บาท
Technical View
ลุ้นปรับตัวขึ้นต่อทดสอบแนวต้าน EMA200 วัน: ดัชนีแกว่งตัว Sideway Up จากแรงซื้อหุ้นกลุ่ม Big Cap. หลากหลายกลุ่ม โดยเฉพาะแรงซื้อในช่วงหลัง 4 โมงเย็น ทำให้ดัชนปรับตัวขึ้นยืนเหนือแนวต้าน 1685(EMA60วัน) จึงมองว่าดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านโซน1700-1710 (EMA200วัน) ฉะนั้นจังหวะอ่อนตัวระหว่างวันทดสอบแนวร้บ 1680-1685 แล้วไม่หลุด มองว่ายังน่าสะสม กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : Let Profit Run โดยใช้จุด Lock Profit ที่ 1680 และพิจารณาแรงขายที่ 1710 2) ไม่มีหุ้น : จังหวะอ่อนตัวระหว่างวัน หากไม่หลุด 1680 มองเป็นโอกาสสะสม มองกรอบการ Trading 1680-1710
แนวรับ : 1670, 1680 แนวต้าน : 1700, 1710
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: 26 ก.ค. การประชุม ECB / 27 ก.ค. สหรัฐรายงาน GDP ไตรมาส 2
ปัจจัยในประเทศ: PTTEP รายงานผลประกอบการสัปดาห์นี้
หุ้นเทคนิค:
CPALL (B 75.00-76.00, Tp 80.00// 83.00, Cut 74.00)
PTT (B 50.00, Tp 53.00, Cut 49.00)
ข่าวเด่น