“ สะสมดักงบ 2Q18 ”

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้น +15.86 จุด (+0.95%) ปิดที่ 1,690 จุด มูลค่าการซื้อขาย 57,540 ล้านบาท ตาม sentiment เชิงบวกตลาดหุ้นภูมิภาคที่ดีดตัวขึ้น ประกอบกับแรงซื้อดักงบและเงินปันผล 2Q18 ที่กำลังทยอยประกาศ ทั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นแรงซื้อในกลุ่ม Prop ,Comm และ Health ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 331 ล้านบาท แต่ Net Long TFEX 12,830 สัญญา และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,120 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : เรามีมุมมองเป็นกลาง–บวก คาดดัชนีปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,695 – 1,700 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว โดยได้ sentiment เชิงบวกจากสหรัฐ-EU ร่วมมือเพื่อยุติการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอุตฯ (ไม่รวมรถยนต์และชิ้นส่วน) รวมถึงขจัดอุปสรรคทางการค้าซึ่งช่วยลดความตึงเครียด Trade war ลงได้ นอกจากนี้ยังได้แรงซื้อดักผลประกอบการ 2Q18 ที่กำลังทยอยประกาศ (วันนี้ PTTEP ประกาศงบ 2Q18 คาดกำไรสุทธิที่ 6.2 พันลบ. -54%QoQ , -18%YoY กดดันจาก FX loss ที่พุ่งขึ้นเป็น 6.4 พันลบ.) รวมถึง Fund Flow ต่างชาติที่ชะลอแรงขายหลังเงินบาทพลิกแข็งค่าขึ้น อีกทั้งเป็น Net Long TFEX 6 วันต่อเนื่องราว 5.9 หมื่นสัญญาซึ่งเป็นบวกต่อทิศทางการลงทุน อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีแรงขายลดความเสี่ยงก่อนหยุดยาว 4 วันซึ่งจะส่งผลให้ดัชนีมีสลับอ่อนตัวได้

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy
  กลุ่มที่คาดว่างบ 2Q18 เติบโต  IVL, BANPU, BEM, BCH, GCAP, RS, SVI, EPG และ PSL
  ทยอยสะสมหุ้นกลุ่มธนาคาร (BBL และ KKP) ได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นในครึ่งปีหลัง
  PSL อานิสงส์ค่าระวางเรือทำ High ในรอบกว่า 4 ปีเดือนล่าสุด 1,772 จุด
  กลุ่มปันผลครึ่งปีเด่น ADVANC, INTUCH, KKP, QH, LH และ SPALI

หุ้นแนะนำวันนี้ : BANPU (ปิด 21 ซื้อ/เป้า 28) ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดของปีมาแล้ว 2Q18 คาดมีกำไรสุทธิประมาณ 4 พันล้านบาท เทียบกับ 1Q18 ขาดทุน 1.26 พันล้านบาท นอกจากนี้ระยะสั้นยังได้ Sentiment บวกจากราคาถ่านหินที่เพิ่มขึ้นใกล้แตะจุดสูงสุดของปีที่ระดับ 117$/ton, CPALL(ปิด 76.5 ถือ/เป้า 82 บาท) ยังเป็นหุ้น TOP Pick ในหุ้นกลุ่มค้าปลีก โดยมีปัจจัยหนุนจาก SSSG ที่ยังเติบโตต่อเนื่องจากการขยายสาขา คาดกำไรสุทธิปีนี้ประมาณ 23,113 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 16.1%yoy, TKN (ปิด 15.5 ซื้อ/เป้า 24) คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว มอง GPM ฟื้นตัวจากต้นทุนสาหร่ายลดลง และได้ Economy of scale + BOI จากโรงงานใหม่ ขณะที่ไตรมาส 3 และ 4 เข้าสู่ช่วง High season

Top picks ปีนี้ : ADVANC, ANAN, BEM, BDMS, CHG, CPALL, IVL, MINT, MTC และ QH

KSS report วันนี้ : KKP (ปิด 72.5 ซื้อ/เป้า 85), KTB (ปิด 18.8 ถือ/เป้า 20), SCC (ปิด 446 ซื้อ/เป้า 550), Property Sector (OVERWEIGHT)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :               
  (+) Trade war สหรัฐและยุโรปดูผ่อนคลายขึ้น หลังสหรัฐ และอียู ส่งสัญญาณยุติข้อพิพาททางการค้า: วานนี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้เข้าประชุมกันเพื่อหาทางเจรจาการค้า โดยผลประชุมเบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะระงับการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม ตราบใดที่การเจรจาการค้ายังคงดำเนินไป โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อพิพาทเกี่ยวกับการค้าที่เกี่ยวกับกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ นอกจากนี้ในการประชุมดังกล่าว EU ยังตกลงที่จะซื้อถั่วเหลือง และก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐ และ EU จะเป็นไปในลักษณะได้ประโยชน์ร่วมกัน ตามที่สหรัฐคาดหวังไว้
  (+) กลุ่มอสังหาฯ ยังให้น้ำหนัก Overweight คาดกำไรสุทธิ 2Q18 เติบโตทั้ง qoq และ yoy เลือก ANAN, AP และ QH เป็น Top pick : เราคาดบริษัทอสังหาฯที่เราดูแลทั้ง 8 บริษัท (LH, PSH, SPALI, QH, ORI, AP, ANAN และ LPN) จะมีกำไรสุทธิรวมใน 2Q18 ประมาณ 9.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.1%qoq และ 11.4%yoy เป็นผลจากยอดโอนรับรู้รายได้จากโครงการต่างๆเพิ่มขึ้น อีกทั้งมีส่วนแบ่งรายได้จากบริษัทร่วมและ JV มากขึ้น คาด ANAN, AP, QH และ ORI เป็นกลุ่มบริษัทที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นทั้ง qoq และ yoy โดยคาดว่า ANAN จะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นโดดเด่นที่สุดประมาณ 483 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 234%qoq และ 73%yoy ตามด้วย AP คาดมีกำไรสุทธิประมาณ 1,188 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 47%qoq และ 94%yoy และ ORI คาดมีกำไรสุทธิ 763 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 56%qoq และ 220%yoy ตามลำดับ เรายังให้น้ำหนักการลงทุนของกลุ่มอสังหาฯเป็น Overweight โดยเลือกหุ้นโมเมนตัมของกำไรและยอดขาย Presale เติบโตอย่างโดดเด่นเป็น Top Pick ประกอบด้วย ANAN (ซื้อ/เป้า 6.7), AP (ซื้อ/เป้า 11), และ QH (ซื้อ/เป้า 4.2)
  (+) กลุ่มนิคมฯ – ยอดโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ในช่วง 1H18 เพิ่มขึ้น 22%yoy สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เริ่มกลับมาเป็นบวกต่อกลุ่มนิคมฯ : วานนี้ บอร์ด BOI รายงานจำนวนโครงการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนในช่วง 1H18 มีจำนวนทั้งหมด 754 โครงการ เพิ่มขึ้น 22%yoy คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุน 284,600 ล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โครงการลงทุนที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากโครงการ EEC ซึ่ง 1H18 มี 142 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 183,230 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 122%yoy จำนวนโครงการลงทุนที่สูงขึ้นสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของภาคเอกชนที่เริ่มกลับมาและคาดว่าการขอรับการลงทุนจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังเป็นบวกต่อยอดขายที่ดินของกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม