Market summary

  เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับขึ้นเด่น โดยระหว่างชั่วโมงซื้อขายมีแรงซื้อเด่นในกลุ่มพลังงาน, โรงกลั่น และปิโตรนำโดย PTT, PTTEP, PTTGC, IRPC, TOP กลุ่มธนาคารอย่าง KTB, SCB กลุ่มรถยนต์ AH, STANLY , SAT กลุ่ม TV-digital อย่าง RS, WORK และหุ้นขนาดกลางอย่าง JKN, PRM ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,722.0 จุด (+20.2 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 6.0 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 5.6 หมื่นล้านบาท
  นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันที่   1,147 ล้านบาท พร้อมคงสถานะ Long SET50 index future เป็นวันที่ 9 ที่ 7,297  สัญญา (รวม 8 วันสูงกว่า 7.3 หมื่นสัญญา)

Investment theme
  หลายเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ทำงานได้ดี: ธปท.รายงานตัวเลขสำคัญเศรษฐกิจไตรมาส 2 พบว่าหลายเครื่องยนต์เติบโตได้ดีโดยเฉพาะการบริโภคในประเทศที่เติบโตสูงกว่า 4.2% สนับสนุนจากการบริโภคสินค้าคงทน (Durable goods) ที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 10.4% และรายได้เกษตกรเพิ่มขึ้นเป็น 6.2% จาก -2.3% ในไตรมาสที่ผ่านมา ในส่วนของการลงทุนเอกชนเติบโตมากกว่า 4.6% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่  2.0% และอัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 69.1 ภาพดังกล่าวสนับสนุนมุมมองการลงทุนหุ้นในกลุ่ม Domestic ของเรา โดยเราประเมินว่าภาพดังกล่าวจะยังเติบโตต่อเนื่องถึงไตรมาส 3 โดยเฉพาะการบริโภคและการลงทุนของทั้งภาครัฐและเอกชนในประเทศ 
  Investment Theme:  เราประเมิน SET มี Momentum เชิงบวกภายหลังกลุ่มธนาคารรายงานผลประกอบการที่ดีกว่าตลาดคาดมากถึง 15% ประกอบการ ธปท.รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญไตรมาส 2 ออกมาดี โดยเฉพาะการบริโภค การลงทุนในประเทศ สะท้อนเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เราคงคำแนะนำลงทุนในกลุ่ม Domestic play นำโดย กลุ่มธนาคาร BBL, TISCO กลุ่มค้าปลีก BJC ก่อสร้าง (CK, STEC) พร้อมแนะลงทุนหุ้นที่คาดผลประกอบการ 2Q เด่น และมีปันผลระหว่างกาล พร้อมราคาที่ไม่แพงอย่าง PTTGC  โดยมองว่าช่วงต้นเดือนสิงหาคม สามารถเก็งกำไรได้ กรอบ SET 1,740 จุด+/- อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งหลังของเดือนมีความเสี่ยงบางประการ

Big issue 
  เมื่อคืนที่ผ่านมา – พาณิชย์รายงานเงินเฟ้อเดือนก.ค.เติบโต 1.46% / ประธานสนช.คาดนำรายชื่อประธาน-กกต. ชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้า 3 ส.ค./ Fed คงดอกเบี้ยตามคาด และส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเดือน ก.ย. / สต๊อกน้ำมันดิบ EIA เพิ่มขึ้นเกินคาดกดดัน ราคาน้ำมันดิบโลกวานนี้ -1%
  วันนี้มีบทวิเคราะห์กลยุทธ์รายเดือน (Market See-thru)

Stock Pick 
  แนะนำสะสม 4 หุ้นเด่น ที่คาดผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงครึ่งปีแรก และกำไรจะเร่งตัวขึ้นเด่นชัดในช่วงครึ่งหลังของปี  อีกทั้งยังเป็นหุ้นที่มีอัตราการจ่ายปันผลในระดับที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดการลงทุนมากยิ่งขึ้น แนะนำ 4 หุ้นเด่น ดังนี้
    SCC : ความต้องการปูนซีเมนต์ฟื้นตัว + ความต้องการปิโตรเคมีเร่งตัวขึ้น
    BCP : ฟื้นตัวหลังจากปิดซ่อมบำรุง 2Q18 + เตรียมนำ บ.ลูก เข้าตลาด
    KBANK : คาดได้อานิสงส์บวกจากดอกเบี้ยขาขึ้น + เป้าหมายต่างชาติ
    SYNEX : เข้าสู่ช่วง High Season + รุกธุรกิจบริการ margin สูง
  

  Trading idea – เก็งกำไร CPF 31.10 บาท คาดกำไร 2Q เด่น /  เก็งกำไร STEC 25.0 บาท คาดครึ่งปีหลังเด่น / ทยอยสะสม BEM เป้าหมาย 9.0 บาท / ทยอยสะสม IRPC ราคา 7.50 บาท/หุ้น

Technicel View 


  ยืนเหนือ EMA200Day ลุ้นทดสอบ Neckline ที่ 1750:  ดัชนีแกว่งตัวขึ้นแรงจากแรงซื้อหุ้น Big Cap. แทบทุกกลุ่ม ทำให้ปรับตัวขึ้นปิดยืนเหนือแนวต้านโซน 1710 (EMA200Day) ได้อย่างเด็ดขาด และปิดที่ High ของวัน ระยะกลางยังมองว่าดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ เพื่อทดสอบแนวต้าน Neckline ที่ 1750 ขณะนี้มองกรอบการแกว่ง 1710-1750 มองว่าระหว่างวันหากอ่อนตัวไม่หลุด 1710 ยังถือเป็นโอกาสทยอยสะสม 
  กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น :  Let Profit Run โดยใช้จุด Lock Profit ที่ 1710 และพิจารณาแรงขายตามแนวต้าน  2)  ไม่มีหุ้น : จังหวะอ่อนตัวระหว่างวัน หากไม่หลุด 1710 มองเป็นโอกาสสะสม ระยะกลางมองกรอบการ Trading 1710-1750
  แนวรับ : 1710, 1715 แนวต้าน : 1730, 1750

Keep and eye on...
  ปัจจัยต่างประเทศ:  การจ้างงานนอกภาคเกษตร US ศุกร์นี้
  ปัจจัยในประเทศ:  20 สค. 2Q61 GDP ของไทย

หุ้นเทคนิค:
  BDMS (B 26.50-27.00, Tp 28.00//30.00, Cut 26.00)
  PTTEP (B 140.00, Tp 150.00, Cut 138.00)