“ พักตัว ”

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ทรุดตัวลง -13.73 จุด (-0.80%) ปิดที่ 1,708 จุด มูลค่าการซื้อขาย 53,473 ล้านบาท ตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกหลังสหรัฐเตรียมปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนเป็น 25% มูลค้า 2 แสนล้านดอลลาร์ ส่งผลให้สงครามการค้ามีแนวโน้มยืดเยื้อ ประกอบกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงทำให้มีแรงขายกลุ่มพลังงานกดดันดัชนีด้วยอีกทาง อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างชาติยังเป็นฝั่งซื้อสุทธิสี่วันติดต่อกันอีก 348 ล้านบาท , ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 442 ล้านบาท แต่ Net Short TFEX 9,612 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : เรามีมุมมองเป็นกลาง คาดดัชนีแกว่งตัว 1,700 – 1,715 จุด จาก sentiment เชิงบวกตลาดหุ้นสหรัฐที่รีบาวด์ชึ้นจากกลุ่มเทคโนโลยีโดยเฉพาะหุ้น Apple ที่มาร์เก็ตแคปพุ่งขึ้นสู่ 1 ล้านล้านดอลลาร์  ประกอบกับราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นหลังสต๊อกน้ำมันดิบที่จุดส่งมอบน้ำมันเมืองคุชชิ่งลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 24.6 ล้านบาร์เรลซึ่งต่ำสุดตั้งแต่ปี 2557 อย่างไรก็ตามความกังวลสงครามการค้าจะยังเป็นตัวถ่วงหลังจีนขู่ตอบโต้สหรัฐหากเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีน 25% (แผนเดิม 10%) จำนวน 6,031 รายการ วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ นอกจากนี้เงินบาทที่อ่อนค่าลงสู่ระดับ 33.3 Bath/USD อาจเป็นตัวกระตุ้นให้ Fund Flow ต่างชาติชะลอตัวและจะเป็นแรงกดดันต่อทิศทางดัชนีด้วยเช่นกัน

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy
  กลุ่มที่คาดว่างบ 2Q18 เติบโต  IVL, BANPU, BEM, BCH, GCAP, RS, SVI และ EPG
  BANPU ราคาถ่านหินดีดตัวขึ้นล่าสุด 117.3 US/Ton และคาดกำไร 2Q18 แข็งแกร่ง
  กลุ่มธนาคาร (BBL , KKP) ได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นในครึ่งปีหลัง
  กลุ่มปันผลครึ่งปีเด่น ADVANC, INTUCH, KKP, QH, LH และ SPALI

หุ้นแนะนำวันนี้ : IVL (ปิด 60.5 ซื้อ/เป้า 75) คาดกำไรสุทธิ 2Q18 ที่ 7.5 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 29%qoq และ 155%yoy จาก spreads ผลิตภัณฑ์ ยังเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งโดยเฉพาะ PTA spread และยังได้แรงหนุนจาก Volume ขายที่เพิ่มขึ้น, BCH (ปิด 16.4 ซื้อ/เป้า 19) คาดผลประกอบการ 2Q18 ออกมาดีกว่าที่เคยคาดไว้ หลังศูนย์เวิลด์เมดดิคอล สาขาแจ้งวัฒนะ มีจำนวนผู้ป่วยเร่งตัวขึ้นโดยเฉพาะจากกลุ่มตะวันออกกลาง ส่งผลให้ศูนย์ดังกล่าวอาจจะถึงจุดคุ้มทุนเร็วกว่าที่คาดไว้, TKN (ปิด 15.9 ซื้อ/เป้า 24.5) ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว คาดกำไรสุทธิ 2Q18 ที่ 166 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 9%qoq และ 23%yoy จากการเติบโตของยอดขายทั้งในและต่างประเทศ  GPM ฟื้นตัวจากต้นทุนสาหร่ายลดลง และได้ Economy of scale และจ่ายภาษีลดลง เนื่องจากโรงงานได้สิทธิประโยชน์จาก BOI ขณะที่ไตรมาส 3 และ 4 เข้าสู่ช่วง High season

Top picks ปีนี้ : ADVANC, ANAN, BEM, BDMS, CHG, CPALL, IVL, MINT, MTC และ QH

KSS report วันนี้ : ADVANC (ปิด 202 ซื้อ/เป้าใหม่ 225 จาก 230), TCAP (ปิด 51.5 ซื้อ/เป้า 60), TSR (ปิด 2.32 อัพเกรดเป็นซื้อ/เป้า 3)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :                                           
  (+/-)  แอปเปิลบวกช่วยพยุงดาวโจนส์ แม้ภาพรวมจะยังถูกกดดันจากสงครามการค้า : ดัชนีดาวโจนส์เคลื่อนไหวผันผวนโดยดัชนีปรับตัวลงในช่วงแรกของการซื้อขายเนื่องจากตลาดยังวิตกกังวลต่อปัญหาสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ หลังจากโดนัล ทรัมป์ สั่งให้ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) พิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน มูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ ขึ้นเป็น 25% อย่างไรก็ตามดัชนีค่อยๆฟื้นตัวและปิดตลาดแทบไม่เปลี่ยนแปลง โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีโดยเฉพาะแอปเปิล หลังจากรายงานรายได้และผลกำไรใน 2Q18 ออกมาสูงขึ้นและดีกว่าที่ตลาดคาด ส่งผลให้หุ้นแอปเปิลเพิ่มขึ้น 2.92% ปิดที่ 207.39 ดอลลาร์ สูงสุดเป็นประวัติการณ์หนุนให้มาร์เก็ตแคปของ แอปเปิลเป็นบริษัทแห่งแรกของสหรัฐและของโลกที่มีมูลค่าตลาดแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์
  (+/-) BoE ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 0.75% ตามที่ตลาดคาดไว้ แม้ยังเผชิญความวุ่นวายจาก Brexit : : แม้อังกฤษจะยังวุ่นวายอยู่กับการเตรียมตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ซึ่งมีกำหนดการเบื้องต้นในเดือนมี.ค.ปี 2019 แต่ภาพเศรษฐกิจโดยรวมไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังปรับขึ้นยืนเหนือระดับ 2% (2.4%) มากที่สุดในสหภาพยุโรป ซึ่งเราคาดว่าเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ BoE มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 0.75% ขณะที่ยังคงวงเงิน QE ที่ระดับ 435 พันล้านปอนด์ต่อเดือนตามเดิม เราคาดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของอังกฤษจะไม่กระทบต่อบรรยากาศการลงทุนของบ้านเรา เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่จะให้น้ำหนักไปที่ สหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่นมากกว่า
  (+) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ค.เพิ่มขึ้นทําสถิติสูงสุดในรอบ 62 เดือน เป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีกและ อสังหาฯ: มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รายงานผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ก.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 82.2 จาก 81.3 ในเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และนับเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 62 เดือน ซึ่งเป็นการปรับขึ้นในทุกภาคส่วน เนื่องจากผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นกับแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้น และยังมั่นใจต่อการส่งออกและท่องเที่ยว จะยังขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นเป็นบวกต่อ กลุ่มค้าปลีก (CPALL) และอสังหาฯ(ANAN QH ORI) ซึ่งเป็นกลุ่มที่รายได้มี correlation กับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสูง