ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่เพิ่มขึ้นใหม่ จากการที่สหรัฐฯจะคิดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 10% เป็น 25% คิดเป็นมูลค่า 2 แสนล้านเหรียญ จึงกดดันให้ค่าเงินดอลลาร์เองแข็งค่าขึ้น ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้นมาที่ 95.20 จุด โดยที่ค่าเงินหยวนเองกลับอ่อนค่าอย่างรวดเร็วจาก 6.8547 หยวน/ดอลลาร์ ปรับอ่อนมาเช้านี้ที่ 6.8878 หยวน/ดอลลาร์โดยประมาณ ขณะที่ค่าเงินบาทเองปรับตัวอ่อนค่าขึ้นมาจากเมื่อวานที่ 33.15 บาท/ดอลลาร์ มาที่ 33.25 บาท/ดอลลาร์ในเช้านี้ ราคาทองคำกลับทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 1 ปี ที่ระดับ 1,208 เหรียญโดยประมาณ โดยที่ยังคงมีความผันผวนไม่แน่นอนของค่าเงินค่อนข้างมากจากสงครามทางการค้า สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญเมื่อวานนี้ ได้แก่ Unemployment Claims ของสหรัฐฯออกมาดีกว่าที่คาดที่ระดับ 218,000 ราย ขณะที่วันนี้จะมีตัวเลขสำคัญที่ตลาดจับตา ได้แก่ Non-Farm Payrolls ที่คาดว่าจะออกมาแย่ลง ขณะที่Unemployment Rate คาดว่าจะออกมาดีขึ้น
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังทำจุดต่ำสุดใหม่แถว 1,208 เหรียญ ท่ามกลางแรงเทขายอย่างต่อเนื่องเป็นจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 1 ปี ซึ่งทิศทางในภาพรวมยังเป็นแนวโน้มขาลง ยังคงแนะนำให้นักลงทุนที่จะลงทุนในแนวโน้มทิศทางขาลงโดยใช้กลยุทธ์ในลักษณะ Short Position ก่อน แล้วค่อยซื้อกลับปิดสถานะ ขณะที่นักลงทุนที่ยังลงทุนผิดทางยังคงที่จะแนะนำให้หาทางที่จะลดสถานะโดยปิดสถานะเดิมตามแนวโน้มและทิศทางของตลาด สำหรับ Gold-D คาดจะมีแนวรับ 1,200 เหรียญ และมีแนวต้าน 1,220 เหรียญ ขณะที่ Gold Comex Series Z จะมีแนวรับที่ 1,208 เหรียญ และแนวต้าน 1,230 เหรียญ
โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เก็งกำไรระยะสั้นขาลงในกรอบ ระหว่าง 1,200 – 1,220 เหรียญ
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
พยายามปิดสถานะเพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะขาลงของตลาด
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
หาจังหวะปิดทำกำไรเป็นช่วงๆ เมื่อราคาอ่อนตัว
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
ทำกำไรทิศทางขาลงในกรอบ
Gold Futures Q18 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,100 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,300 บาท
ข่าวเด่น