Market summary

  เมื่อวานที่ผ่านมา เผชิญกับแรงขายทำกำไรสูง โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายแรงขายเด่นใน IVL ภายหลังรายงานผลประกอบการออกมาต่ำกว่าตลาดคาด และ LH ภายหลังคุณอนันต์ ยกเลิกการทำ Tender และแรงขายในหุ้นใหญ่อย่าง CPALL, AOT, CPF  ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,696.2 จุด     (-15.8 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 4.7 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันที่  1,229 ล้านบาท แต่ยังคงเปิดสถานะ Short SET50 index future เป็นวันที่ 3 ที่ 4,030  สัญญา

 Investment theme
  คาด SET แกว่งตามการรายงานงบ Q2 แต่ EYG จำกัด Upside : ตราบใดที่สงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐยังไม่มีการใช้จริง กล่าวคือ สหรัฐยังไม่เริ่มมาตราการเพิ่มวงเงินเป็น 2.0 แสนล้าน และจีนยังไม่เพิ่มวงเงินนำเข้าสินค้า 6.0 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในระยะสั้นเราคาดตลาดหุ้นในแต่ละประเทศจะแกว่งตัวตามผลประกอบการไตรมาสสองและค่าเงินเมื่อเทียบกับดอลลาร์และหยวน (เฉพาะภูมิภาค) เป็นหลัก สำหรับประเทศไทย การที่ SET ปรับขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,700 จุดและอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (10 ปี) เริ่มขยับขึ้นตามต่างประเทศ ทำให้ส่วนต่างผลตอบแทนการลงทุนในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร (Earning Yield Gap) ปรับลดลงเหลือเพียง 3.67% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 3.79% ถือเป็นหนึ่งในการจำกัด Upside ของตลาดหุ้น ฉะนั้นแนะนักลงทุนจับตาการรายงานผลประกอบการไตรมาสสอง ซึ่งหากกลุ่มพลังงาน,ค้าปลีกและ ICT ออกมาดีกว่าคาดมีโอกาสที่ EPS ของตลาดหุ้นจะถูกปรับจากปัจจุบันที่บริเวณ 108.7x เพื่อเปิด Upside ใน EYG 
  Investment Theme:  คงคำแนะนำถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40% โดยภายหลัง SET ปิดต่ำกว่า 1,700 จุดทำให้ในระยะสั้นมีโอกาสเข้าสู่ช่วงพักฐาน ประเมินกรอบแนวรับแรกบริเวณ 1,680 จุด+/- และทยอยสะสมหุ้น Domestic อย่างกลุ่มธนาคาร BBL, กลุ่มก่อสร้าง STEC, CK และกลุ่มรถไฟฟ้าและโรงไฟฟ้าที่มีลักษณะ Defensive อย่าง BEM, TPIPP

Big issue 
  เมื่อคืนที่ผ่านมา – IVL รายงาน Core profit ต่ำกว่าคาด, TU สูงกว่าคาด GPSC ใกล้เคียงคาด / อินโดเนเซียรายงาน GDP ไตรมาส 2 สูงกว่าคาดที่ 5.27% 

Stock pick : PTTEP
PTTEP : กรอบเก็งกำไร  140.0-150.0 บาท/หุ้น
  ราคาน้ำมันเริ่มกลับมามี sentiment บวกอีกครั้งภายหลังซาอุรายงานลดกำลังการผลิตเดือนก.ค.ลงเหลือ 10.3 ล้านบาร์เรล (จากระดับ 10.49 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือนมิ.ย.) ประกอบกับเมื่อวานที่ผ่านมา Trump ประกาศเตรียมลงนามคว่ำบาตรอิหร่าน ทำให้เรามองว่าราคาน้ำมันดิบในเดือนสิงหาคมมี Downside จำกัด 
  คาดผลประกอบการ 3Q18 ฟื้นตัวจากปริมาณการขาย +8%QoQ (บงกช) และคาดราคาก๊าซปรับขึ้น 5%QoQ เป็น 6.5เหรียญ/MMBTU โดยบริษัทจะขึ้นเครื่องหมาย XD วันพรุ่งนี้ (8 ส.ค.) คิดเป็นปันผลระหว่างกาล 1.3%
  Trading idea – สัปดาห์ (6- 15 ส.ค.) ของการรายงานผลประกอบการ Q2 เราแนะเก็งกำไร IRPC ราคา 7.60 บาท ล่าสุดราคา  Break เส้น200วัน / รอซื้อ IVL บริเวณ 55.0-56.0 บาท 

Techical View

  รอดูแนวโน้มจนกว่าจะเริ่มหยุดลงที่แนวรับ:  ดัชนีปรับตัวขึ้นในช่วงเปิดตลาดจากนั้นแกว่ง Sideway Down ตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะในช่วงบ่ายปรับตัวลงแรงหลุดแนวรับ EMA200วัน และปิดหลุดแนว Lock Profit ที่เราให้ไว้ที่ 1700 ทำให้คาดว่าดัชนีจะมีโอกาสปรับตัวลงต่อ ขณะนี้มองโซนแนวรับที่ 1680-1690 ซึ่งหากวันนี้ปิดหลุดโซนนี้คาดจะเกิดสัญญาณขายใน MACD แนะนำรอดูแนวโน้มจนกว่าจะเริ่มหยุดลงที่แนวรับ  
              กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น :  ต้อง Lock Profit ในขาขึ้นรอบนี้หลังดัชนีหลุด 1700 หากยังมีหุ้นแนะนำพิจารณา Stop Loss เมื่อหลุด Low ของวานนี้ที่ 1694  2)  ไม่มีหุ้น : รอดูแนวโน้มจนกว่าดัชนีจะเริ่มหยุดลงที่แนวรับ หรือเริ่มมีสัญญาณ Rebound ที่ชัดเจน
แนวรับ : 1680, 1690 แนวต้าน : 1706, 1720

Keep and eye on...
  ปัจจัยต่างประเทศ:  8 ส.ค. จีนรายงานตัวเลขส่งออก-นำเข้า, เงินเฟ้อ /  10 ส.ค. สหรัฐรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ 
  ปัจจัยในประเทศ:  :  สัปดาห์แห่งการรายงานผลประกอบการ / จับตาระดับน้ำบางเขื่อนในประเทศ เริ่มต้องเฝ้าระวัง

หุ้นเทคนิค:
  KBANK (B 213.00-215.00, Tp 220.00//225.00, Cut 210.00)
  KTC (B 28.50, Tp 31.50, Cut 27.00)