คำแนะนำ
เน้นเก็งกำไรระยะสั้น โดยมีแนวรับบริเวณ 1,200-1,193 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาขยับขึ้นควรแบ่งขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านโซน 1,217 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าผ่านได้สามารถถือต่อ
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,200 1,193 1,186
แนวต้าน 1,217 1,228 1,235
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 1.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ หลังการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลงเกินคาดสู่ระดับ 213,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ถึงแม้จะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์แต่การปรับตัวลงของราคาทองคำอยู่ในกรอบ เห็นได้จากการที่ทองคำไม่ทำระดับต่ำสุดที่ต่ำกว่าวันทำการก่อนหน้า โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ทรงตัวในเดือนก.ค.สวนทางการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าดัชนี PPI จะปรับตัวขึ้น 0.2% ประกอบกับดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงจากวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน, การดิ่งลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและหุ้นกลุ่มธนาคารซึ่งช่วยพยุงราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ทองคำยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากการที่หยวน/ดอลลาร์ที่มีเสถียรภาพมากขึ้นหลังจากธนาคารกลางจีนเพิ่มความพยายามในการยับยั้งการอ่อนค่าลงของหยวน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)เพื่อบ่งชี้ทิศทางอัตราเงินเฟ้อและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดและงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐ
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำไม่สามารถ break out ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,217 ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของสัปดาห์นี้ขึ้นไปได้ อาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นให้กลับลงมาอีกครั้ง หากราคาอ่อนตัวลงไม่มากจะเป็นเพียงแรงขายทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น โดยหากยืนราคาระดับ 1,200-1,193 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ จึงจะมีแรงดีดกลับไปทดสอบแนวต้านด้านบนอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
แบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,217 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อรอเข้าซื้อเก็งกำไรจากการดีดตัวขึ้นหากการอ่อนตัวลงสามารถยืนเหนือโซน 1,200-1,193 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,193 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น