ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังคงทรงตัวในระดับล่างหลังจากที่ปรับตัวลดลงกว่า 20 เหรียญเมื่อวานนี้ โดยราคาทองคำไทยปรับตัวลงบาทละ 200 บาท/บาททองคำ มาอยู่ที่ 18,800 – 18,900 บาท/บาททองคำ โดยที่ตลาดยังคงกังวลต่อวิกฤตการค้าระหว่างสหรัฐฯและตุรกี จึงทำให้ค่าเงินลีราปรับตัวลงมาแล้วกว่า 40% และเริ่มทรงตัว โดยนักวิเคราะห์มองว่าวิกฤตดังกล่าวยังไม่จบสิ้นและมีโอกาสจะลุกลามไปสู่ประเทศเกิดใหม่ต่างๆ ด้านค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่ามาอีกครั้งบริเวณ 96.7 จุด หลังจากที่เมื่อวานทรงตัวบริเวณ 96.3 จุด ด้านค่าเงินยูโรปรับร่วงลงมาที่ 1.1330 ดอลลาร์/ยูโร และเช้านี้อยู่ที่ 1.1385 ดอลลาร์/ยูโร ด้าน SPDR มีการเทขายทองคำ 7.95 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 776.65 ตัน สำหรับคืนนี้ต้องติดตามข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Core Retail Sales, Retail Sales, Empire State Manufacturing Index และ Industrial Production ที่ภาพรวมดูจะออกมาแย่ลง 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค 

ราคาทองคำยังทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบกว่า 18 เดือนบริเวณ 1,192 เหรียญโดยประมาณ และในเชิงเทคนิคยังไม่มีสัญญาณการกลับตัวที่ชัดเจน โดยราคายังอยู่ในแนวโน้มทิศทางขาลงหลังจากที่หลุด 1,232 เหรียญลงมาเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนและหลุด 1,200 เหรียญ โดยราคาทองคำจะมีแนวรับ 1,185 เหรียญ และแนวต้าน 1,210 เหรียญ จึงยังแนะนำกลยุทธ์ทิศทางขาลง ทำกำไรระยะสั้นเมื่อมีการดีดตัวกลับ ขณะที่ Gold-D จะมีกรอบการเคลื่อนไหว 1,185 – 1,207 เหรียญ ทางด้าน Gold Comex Series Z จะมีกรอบการเคลื่อนไหวที่  1,194  – 1,213 เหรียญ

โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ 

เก็งกำไรขาลงในกรอบ 1,185 – 1,210 เหรียญ 

- นักลงทุนที่ถือ Long Position  

ปิดสถานะทำกำไรลดความเสี่ยงจากภาวะขาลงของตลาด

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

หาจังหวะขายก่อนเมื่อราคารีบาวน์ และซื้อปิดทำกำไรแนวรับ 

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ไม่แนะนำให้ซื้อถัวเฉลี่ย เนื่องจากภาพระยะยาวของทองคำและแนวโน้มหลักเป็นขาลง

Gold Futures Q18 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,840  บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,040  บาท