สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +4.67 จุด สหรัฐฯ-จีนเตรียมเจรจาการค้ารอบใหม่
  SET แกว่งผันผวนในกรอบ 1664-82 โดยอ่อนตัวลงในภาคเช้าจากความกังวลต่อสถานการณ์ในตุรกีที่อาจส่งผลกระทบลามไปยังสถาบันการเงินในยุโรป แต่ภาคบ่าย SET เริ่มฟื้นตัวสู่แดนบวก หลังมีข่าวสหรัฐฯ-จีนเตรียมเจรจาการค้ารอบใหม่ ต่างชาติขายสุทธิ 3.09 พันลบ. 3 วันติด และ Short S50 Futures 7,778 สัญญา 5 วันติด

ทิศทางตลาดวันนี้ : รีบาวด์ คลายกังวลสงครามการค้า-ปัญหาตุรกี (ชั่วคราว)
  หุ้นโลกเมื่อวาน (16 ส.ค.) ส่วนใหญ่ดีดตัวขึ้นแรง ขานรับข่าวสหรัฐฯ-จีนเตรียมเปิดการเจรจาการค้ารอบใหม่ในช่วงปลายเดือนนี้ และคลายวิตกตุรกี หลังกาตาร์ตกลงจะเข้าลงทุนโดยตรงในตุรกี เป็นเงิน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ฟื้นตัวครั้งแรกในรอบสัปดาห์นี้ +0.7% มาปิดที่ 65.46$/bbl คลายกังวลสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ส่งผลดีต่ออุปสงค์น้ำมัน มอง SET มีแนวโน้มรีบาวด์ทดสอบระดับ 1690+/- จากปัจจัยกดดันตปท.คลายตัวลง (ชั่วคราว) ขณะที่ปัจจัยในปท. สนช.ยอมถอยไม่แก้กม.ลูก กกต.แล้ว ส่งผลให้โรดแมปการเลือกตั้งปีหน้าไม่สะดุด อย่างไรก็ดี มองกรอบการฟื้นตัวยังจำกัด เนื่องจากต่างชาติยังมีแนวโน้มขายปรับพอร์ตลดความเสี่ยงอยู่ รวมทั้งการปรับน้ำหนักหุ้นตามที่ MSCI นำหุ้น A-Shares ของจีนเข้าคำนวณในเฟส 2 ซึ่งจะมีผล 3 ก.ย. เป็นต้นไป แนะติดตามสถานการณ์ในตปท.ใกล้ชิด เพราะยังมีความไม่แน่นอนสูง และเป็นปัจจัยหลักที่สร้างความผันผวนแก่ตลาดหุ้นในช่วงนี้ แนวรับ 1665-70 แนวต้าน 1690-95 อนึ่ง คาด DNA, DNA-W1 จะติด Cash Balance เย็นนี้

กลยุทธ์การลงทุน : หาจังหวะซื้อคืน-สะสมช่วงครึ่งเดือนหลัง
  แนะหาจังหวะซื้อคืน-ทยอยสะสมในช่วงครึ่งเดือนหลัง เล็ง SET ที่บริเวณ 1670 และ 1650 ตามลำดับ และยังคงเป้า SET ปลายปีนี้ขึ้นทดสอบ 1800 คาดหวังเกิดจุดเปลี่ยนการเมืองในกลาง ก.ย. สร้างความชัดเจนเลือกตั้งปีหน้า

• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Trading Pick JWD – เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังและจะโตต่อเนื่องในอีก 2 ปีข้างหน้า จากแนวโน้มรายได้ในทุกธุรกิจดีขึ้น และการเริ่มรับรู้รายได้จากการขยายธุรกิจที่ไต้หวันและอินโดนีเซีย, เป้าพื้นฐาน 11.5 บ. / หุ้นงบดีกว่าตลาดคาด มีโอกาสปรับประมาณการกำไรขึ้น – AH, ANAN, LH, RICHY, SEAFCO, STEC / หุ้นกำไรครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก มี Upside สูง – CK, CMAN, NYT, PCSGH, PLANB, PRM, SEAFCO, STEC, WHA / หุ้นรับอานิสงส์งาน Thailand Focus มองเป็นเป้าลงทุนของนักลงทุนสถาบันทั้งในและตปท. – PTT, IRPC, BBL, KBANK, INTUCH, TRUE, MINT, SCC, LH, CK, STEC / รัฐเล็งลดค่าจดจำนอง-ค่าโอนจาก 3% เป็น 0.01% แบบถาวรสำหรับบ้านราคาไม่เกิน 1.5 ลบ. มองหุ้นที่ได้ประโยชน์สุด LPN, PSH / ผลการทบทวนดัชนี MSCI มีผลบังคับใช้ 3 ก.ย. ไม่มีหุ้นไทยเข้า-ออกทั้ง Global Standard และ Small Cap. / หุ้นเด่นในแต่ละอุตฯ ที่น่าทยอยสะสมสำหรับพอร์ตลงทุน คือ AUTO – PCSGH / BANK – BBL , KBANK , SCB / COMM – CPALL , BJC , COM7 / CONMAT – SCC / CONS – CK , STEC , SEAFCO / FIN – AEONTS , ASAP / FOOD – MINT / ICT – INTUCH , TRUE / MEDIA – PLANB / PETRO – IVL , CMAN / PROP – ANAN , LH , QH , ROJNA / TRANS – BTS , JWD , NYT / mai – SPA / DIVIDENDs – KKP , LH , NYT , TPIPP , TVO
• หุ้น Weekly GURU ซื้อ AEONTS (เป้าสั้น 179 บ.), III (6.25 บ.), ORI (20 บ.) / ถือ ROJNA (6 บ.) / ถึงเป้าขายทำกำไร BPP (+5.5%) / ขายตัดขาดทุน SEAFCO (-2.3%) / ขายเปลี่ยนตัว AMATA (-1.9%)
• หุ้นเด่น ส.ค. (Smart Tactics) BTS, CMAN, JWD, ORI, PCSGH, ROJNA
• หุ้นเด่น 2H18 Big Cap. - KBANK , BBL , CPALL , BJC , CK , IVL , SCC , LH , PSH , QH , TRUE , INTUCH / Mid-Small Cap. - BTS , COM7 , NYT , PLANB , ROJNA , STEC , SEAFCO , SPA

ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research