Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET มีแรงซื้อต่อเนื่องตามภูมิภาค นำโดย การกระจายซื้อในหุ้นใหญ่ในกลุ่ม Domestic อย่างกลุ่มธนาคาร KBANK, SCB กลุ่ม ICT อย่าง ADVANC และ TRUE กลุ่มก่อสร้าง STEC อย่างไรก็ตามมีแรงขายเด่นใน TMB และ DTAC คาดเป็นผลจากการประมูลคลื่นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้น้อยกว่าที่ตลาดคาดที่ 10Mhz ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,701.4 จุด (+11.3 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.4 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 5.2 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยเป็นวันที่ 5 ที่ 426 ล้านบาท แต่กลับมาเปิดสถานะ Long SET50 index future ที่ 4,106 สัญญา
Investment theme
GDP ไตรมาส 2 ดีกว่าคาด สวนทางการปรับประมาณการลงของกำไรตลาดหุ้น : เมื่อวานที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานอัตราการเติบโตเศรษฐกิจไตรมาสสองสูงกว่าคาดที่ 4.6% (คาด 4.4%) สนับสนุนจาก 1) การเติบโตของการบริโภคภาคเอกชนในประเทศที่สูงกว่า 4.5% โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า Durable เช่นรถยนต์ 2) การลงทุนภาครัฐและเอกชนก็เติบโตดีเช่นกันที่ 4.9% และ 3.2% ตามลำดับ ในขณะที่ปัจจัยที่คนส่วนมากเป็นห่วงอย่างรายได้เกษตรกร สามารถพลิกกลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาสที่ 6.1% และการผลิตภาคเกษตรเติบโต 10.4% สะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในหุ้นกลุ่ม Domestic อย่างไรก็ตามดุลการค้าลดลง 18%YoY ที่ 5.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ และเงินทุนเคลื่อนย้ายปรับลดลง เป็นผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดปรับลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน 24% ที่ 6.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ (คิดเป็น 5.2% / GDP) ถือเป็นปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการอ่อนค่าของเงินบาท ในขณะที่ภายหลังจากสิ้นสุดการรายงานผลประกอบการไตรมาสสอง เราเริ่มเห็นนักวิเคราะห์เริ่มมีการปรับประมาณการกำไรลง ส่งผลให้ล่าสุด EPS ของ SET ลดลงเหลือ 107.93 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของปี ซึ่งถือเป็นการจำกัด Upside หรือกรอบแนวต้านเดือนสิงหาคมที่เราประเมินไว้บริเวณ 1,720 จุด
Investment Theme: เราประเมินแนวต้าน SET บริเวณ 1,705 และ 1,720 จุด โดยภายหลังจากการรายงาน GDP ที่สูงกว่าคาดจากการบริโภคและการลงทุนภาครัฐและเอกชน ถือเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนในกลุ่ม domestic อย่างกลุ่มค้าปลีก, กลุ่มธนาคาร และกลุ่มก่อสร้าง
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – ก.ท่องเที่ยวรายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือนก.ค.เติบโต 11% ที่ 22.6 ล้านคน
Stock pick : -
Trading idea –กลุ่ม Domestic ทยอยสะสม SCB , STEC, BEM และ BJC เก็งกำไร TMB 2.16-2.24 เรามองว่าราคาหุ้นปรับลงมามากเกินไป ทำให้กลับมามี Upiside 20% ในขณะที่ล่าสุดบริษัทออกมาแถลงไม่มีการลงทุนในพันธบัตรตุรกี คาดประเด็นดังกล่าวผ่อนคลายความกังวล
Technical View
ทดสอบ EMA200Day แล้วอ่อนตัวในระยะสั้น: ดัชนีเปิดโดดจากแรงซื้อหลักของหุ้นกลุ่ม Big Cap. หลากหลายกลุ่ม จากนั้นแกว่งตัว Sideway Up ตลอดทั้งวันทดสอบแนวต้าน EMA200Day ที่ 1706 แล้วยังไม่สามารถผ่านได้ ระยะกลางหากอ่อนตัวไม่หลุด 1680 มองว่ายังมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1720 อีกครั้ง จังหวะอ่อนตัวระหว่างวันหากไม่หลุด 1690 มองว่ายังสะสม มองกรอบการแกว่งภายในวันที่ 1690-1720
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : Trading ในกรอบ 1690-1720 เน้น Trading เล่นรอบและขายทำกำไรที่แนวต้าน แต่หากหลุด 1680 แนะนำ Lock Profit 2) ไม่มีหุ้น : จังหวะอ่อนตัวหากไม่หลุด 1690 แนะนำทยอยสะสมหุ้นเพื่อเทรดในกรอบ 1690-1720
แนวรับ : 1680, 1690 แนวต้าน : 1706, 1720
ทดสอบ EMA200Day แล้วอ่อนตัวในระยะสั้น: ดัชนีเปิดโดดจากแรงซื้อหลักของหุ้นกลุ่ม Big Cap. หลากหลายกลุ่ม จากนั้นแกว่งตัว Sideway Up ตลอดทั้งวันทดสอบแนวต้าน EMA200Day ที่ 1706 แล้วยังไม่สามารถผ่านได้ ระยะกลางหากอ่อนตัวไม่หลุด 1680 มองว่ายังมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1720 อีกครั้ง จังหวะอ่อนตัวระหว่างวันหากไม่หลุด 1690 มองว่ายังสะสม มองกรอบการแกว่งภายในวันที่ 1690-1720
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : Trading ในกรอบ 1690-1720 เน้น Trading เล่นรอบและขายทำกำไรที่แนวต้าน แต่หากหลุด 1680 แนะนำ Lock Profit 2) ไม่มีหุ้น : จังหวะอ่อนตัวหากไม่หลุด 1690 แนะนำทยอยสะสมหุ้นเพื่อเทรดในกรอบ 1690-1720
แนวรับ : 1680, 1690 แนวต้าน : 1706, 1720
ปัจจัยต่างประเทศ: ประชาพิจารณ์ Trade war ของ US ในสัปดาห์
ปัจจัยในประเทศ: รายงาน GDP 2Q61 ของไทย ออกมาตามตลาดคาดที่ 4.4%
หุ้นเทคนิค:
SCC (B 450.00-454.00, Tp 466.00//470.00, Cut 444.00)
CPF (B 25.50, Tp 28.00, Cut 25.00)
ข่าวเด่น