ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำค่อนข้างทรงตัวบริเวณ 1,190 เหรียญ โดยที่ค่าเงินดอลลาร์เองยังคงอ่อนค่าลงจากระดับ 95.70 จุด ลงมาที่ 95.11 จุด ซึ่งการอ่อนค่าของดอลลาร์มาพร้อมกับการแข็งค่าของเงินบาท โดยจะเห็นได้ว่าค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องมาที่ 32.8 บาท/ดอลลาร์ หรือแข็งค่าขึ้นจากเมื่อวานประมาณ 15 สตางค์ ด้านราคาทองคำไทยปรับลงเล็กน้อยมาที่ 18,650 บาท/บาททองคำ จากการแข็งค่าของเงินบาทเมื่อวานี้ ทางด้านกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ ทำการเทขายทองคำ3.54 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 768.7 ตัน สำหรับเมื่อวานนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญใดๆ แต่หลายฝ่ายมองและให้ความสำคัญว่าการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-จีน อาจจะมีประโยชน์มาก ขณะที่นายทรัมป์ไม่ได้คิดเช่นนั้น ทางด้านเฟดเองมีการแสดงความคิดเห็นว่าเฟดเองจะขึ้นดอกเบี้ยได้อีก 3 ครั้งระยะยาว แต่ไม่ได้ระบุกรอบเวลา โดยเฟดคาดว่าดอกเบี้ยระยะยาวจะอยู่ในกรอบระหว่าง 2.5 – 2.75%

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค 

ราคาทองคำมี Technical Rebound โดยจะมีแนวต้านสำคัญที่ 1,200 เหรียญ ขณะที่แนวรับขยับขึ้นมาที่ 1,180 เหรียญ ซึ่งภาพระยะสั้นมีโอกาสทดสอบ 1,200 เหรียญได้ ท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าต่อเนื่อง ทางด้านทองคำไทยจะมีแนวรับสำคัญ 18,450 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 18,700 บาท/บาททองคำ สำหรับ Gold-D วันนี้คาดว่าจะมีกรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง 1,180-1,200 เหรียญ ขณะที่ Gold Comex Series Z จะมีแนวรับ 1,187 – 1,207 เหรียญ

โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ 

เก็งกำไรในกรอบระยะสั้นๆ มีโอกาสเห็นทองคำทดสอบ 1,200 เหรียญ 

- นักลงทุนที่ถือ Long Position  

ลงซื้อขึ้นขาย เก็งกำไรระยะสั้นๆ

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

หาจังหวะปิดทำกำไรเมื่อราคาย่อตัว ปรับลดสถานะการลงทุนออกไปก่อน

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ปรับพอร์ตสมดุลตามสภาพการแกว่งของตลาด โดยระยะสั้นๆมีลักษณะ Technical Rebound

Gold Futures Q18 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,390  บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,590  บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง