ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน คาดตลาด 'Sideway' ต้าน 1709/1716จุด(24/08/61)


 “Selective Play”

CNS Daily Strategy: คาดตลาด “Sideway” ต้าน 1709/1716จุด รับ 1697/1692จุด การเจรจาสหรัฐฯ-จีนยังไม่ได้ข้อสรุป ขณะที่ทั้งสองประเทศเริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันรอบที่ 2 25% วงเงิน 1.6 หมื่นล้านเหรียญแล้ว กดดันบรรยากาศการลงทุนโดยรวม แต่ตลาดเอเชียได้แรงหนุนจาก Fund Flows วานนี้ที่ไหลเข้าเอเชียทุกประเทศ โดยนับเป็นการซื้อสุทธิ 3 วันติดต่อกัน รวม 770 ล้านเหรียญ หนุนเอเชียฟื้นตัวได้ ซึ่งไทยได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากมาตรการควบคุม Naked Shorts คาดลดความผันผวนลดต่ำลงจากช่วงก่อนหน้า วันนี้แนะนำ  Theme “Selective Play” : CPALL, BH, AMANAH

Nomura : Key Factors

  • (*) Ex Factor: การเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนวานนี้ ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
  • (*) Ex Factor: สหรัฐฯ-จีนเริ่มเก็บภาษีนำเข้ารอบ 2 25% วงเงิน 1.6 หมื่นล้านเหรียญแล้ว
  • (+) Asia: Fund Flows วานนี้ซื้อสุทธิในทุกประเทศ และนับเป็นการซื้อสุทธิ 3 วันติดต่อกัน
  • (+) TIPs: ต่างชาติซื้อสุทธิ 47 ล้านเหรียญ เป็นวันแรก หลังจากขาย 9 วันติดต่อกัน
  • (+) TH: ตลาดหลักทรัพย์ออกมาตรการควบคุม Naked Short คาดจะลดความผันผวนได้
  • (*) Fund Flow:ล่าสุดซื้อหุ้น +4ลบ, Short Future -4,122สัญญา,ซื้อBond+2,591ลบ
  • (-) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -0.04% สู่ $67.83/bbl / BRT -0.07% สู่ $74.73/bbl

Nomura Daily Top Picks: CPALL, BH, AMANAH

Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Sideway” ต้าน 1709/1716จุด รับ 1697/1692จุด การเจรจาเพื่อลดข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนวานนี้ ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ขณะที่ทั้งสองประเทศต่างก็ประกาศบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันรอบที่ 2 ในอัตรา 25% วงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์แล้ว ซึ่งความไม่แน่นอนในประเด็นการค้า กดดัน Sentiment การลงทุนโดยรวมในระยะสั้น ขณะที่มีโอกาสที่ทั้งสองจะจัดการเจรจากันขึ้นอีกครั้ง ก่อนการประชุมสุดยอดระหว่างปธน.Donald Trump และปธน.สี ที่อาจจะเกิดขึ้นในเดือนพ.ย.นี้ได้ นอกจากนี้ ตลาดเอเชียได้รับ Sentiment บวกจากทิศทาง Fund Flows วานนี้ที่ซื้อสุทธิในทุกประเทศ และนับเป็นการซื้อสุทธิ 3 วันติดต่อกัน มูลค่ารวมกว่า 770 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งสำหรับ TIPs ต่างชาติซื้อสุทธิ 47 ล้านเหรียญ เป็นวันแรก หลังจากขาย 9 วันติดต่อกัน คาดเป็นปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันตลาดเอเชียกลับมาฟื้นตัวได้ โดยตลาดหุ้นไทยได้รับจิตวิทยาบวกจากการที่ตลาดหลักทรัพย์ออกมาตรการควบคุม Naked Short โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งจะต้องมีการถือครองหุ้นก่อนที่จะทำการ Short ได้ คาดจะลดความผันผวนของตลาดหุ้นไทยได้ ส่วนประเด็นที่ต้องติดตามวันนี้ การประกาศรายชื่อ FTSE Rebalance  ช่วงค่ำวันนี้ จะเป็นปัจจัยบวก เนื่องจาก EM ASIA ถูกเพิ่มน้ำหนัก จากการยกระดับของ Poland ไปเป็น FTSE DM ดังนั้นจับตากระแสเงินไหลเข้าในช่วงปลายเดือนนี้ถึงเดือน กย 2018

Asset allocation : หุ้น 75% และเงินสด 7.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%

Daily Strategy : ถือหุ้น 75% Sector Rotation เน้นสะสม Domestic Play BBL, KBANK, CPALL, ROBINS CK, STEC, SEAFCO, PYLON, AMATA, GOLD, ERW, BH, AOT, ERW และ Global Play (PTT, IVL) วันนี้เน้น “Theme “Selective Play”

  1. Global Health Care(ดัชนีชี้นำหุ้นกลุ่มการแพทย์โลก) ทรงตัว ใกล้จุดสูง หนุน BH, BDMS / วันนี้ นักลงทุนจีน 400ราย ลงพื้นที่ EEC หนุน  AMATA, WHA
  2. DTV : กสทช ส่งสัญญาณรวมช่องได้ บวกต่อ BEC, RS, WORK, MONO, NMG
  3. วงจรดอกเบี้ยขาขึ้น น่าจะเริ่มปลายปีนี้ หลัง BOT ส่งสัญญาณ บวกต่อกลุ่ม BANK แนะนำ BBL, KBANK เด่น และ Laggard  TMB(แจ้งตลาดไม่มีเงินลงทุนในตุรกี)
  4. TOR Duty Free จะออกมาต้น กย 2018 หนุน AOT
  5. ICT : การลงทุน 4G ผ่านไปแล้ว อุตสาหกรรมแข็งขันเบาลง หนุน  ADVANC, TRUE
  6. Thailand Future Fund ยื่น Filing ใน 1-2สัปดาห์นี้ บวก : STEC, CK, AMATA
  7. กลุ่มรพ + โรงแรม เริ่มได้ประโยชน์จากช่วง Seasonal แนะนำ AOT, ERW, BH
  8. Portfolio Top Picks AUG 2018 แนะนำ AMATA, AOT, BBL, BH, CPALL, STEC, AMANAH
  9. 2H18 Theme Domestic : Election play when oil surge : PTT, IVL, BBL, KBANK, CPALL, CK, STEC, SEAFCO, PYLON, AMATA, GOLD

2H18 Theme Domestic : Election play when oil surge

Best Picks 2H18 : PTT, IVL, BBL, KBANK, CPALL, CK, STEC, SEAFCO, PYLON, AMATA, GOLD
1. Index Driver : PTT, BBL, KBANK, CPALL, PTTEP, IVL
2. Government Spending : STEC, CK, PYLON, SEAFCO, AMATA, ROJNA, SCC
3.  Property : GOLD, SC
4. Tourism & Transport : ERW, BTS
5. Global Play : IVL, PTL
6.  ICT : ADVANC

Fundamental & Tactical Daily Top Picks :

CPALL (TP18F 92*):  Support 69.0/68.5 Resistant 71.25/72.5

  • Theme: Domestic play
  • Earnings Outlook: คาดแนวโน้มกำไรช่วง 2H18F จะดีกว่า 1H18F โดยเฉพาะ 3Q18F จะเป็นพีคของกำไร ตามปัจจัยด้านฤดูกาลธุรกิจค้าปลีก, การขยายสาขาอย่างต่อเนื่องของร้านสะดวกซื้อผสานกับความสามารถในการทำกำไรที่จะดีขึ้นตามสัดส่วนสินค้ากลุ่มอาหารพร้อมทานกับเพื่อสุขภาพ+ความงามและค่าใช้จ่ายทางการเงินที่จะลดลง หลังคาดนำเงินที่ได้จากการลดสัดส่วนหุ้น MAKRO ไปทยอยคืนหนี้ 2 ก้อนรวมมูลค่า 1.5 หมื่นลบ
  • Valuation:  มองเป็นโซนซื้อที่ได้เปรียบ หลังราคาหุ้นปรับลงมา 20% ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาตามกลุ่ม Big cap และเม็ดเงินต่างชาติที่ขายหนัก ขณะที่เชิงพื้นฐานยังเติบโตดี 20%y-y เรามองเป็นจุดเข้าลงทุนที่ดี ซื้อขาย PER18F 26.13x เท่า ยังต่ำกว่าช่วงพีคที่เคยสูง 35x และเป็น Big cap ที่ยังเติบโตดี 
  • Catalyst: วานนี้ตลาดประกาศห้ามทำธุรกรรม Naked short (การ Short หุ้น โดยที่โบรกเกอร์ยังไม่มีหุ้นในพอร์ต หลักๆเป็นธุรกรรมที่จบในวัน) ส่วนมากเกิดจากโบรกต่างประเทศ เป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่ม Big cap ที่มียอด Short sell สูง + เข้าสู่ช่วงเทศกาลแสตมป์หนุนกำไร 3Q18F เป็นจุดพีค

BH (TP19F 235*):  Support 176/173 Resistant 183.5/186

  • Theme: Seasonal Play
  • Earnings Outlook: ชื่อเสียงของรพ.ที่จะดึงดูดทั้งผู้ป่วยและแพทย์มือดี ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่รักษาความสามารถในการแข่งขันระยะยาว และยังมีราคาถูกกว่าการรักษาในต่างประเทศ แนวโน้ม 3Q18F เราคาดว่ากำไรกลับมาเติบโต y-y และ q-q เป็นไตรมาสดีสุดของปี  ส่วนระยะยาวคาดกำไร +10%CAGR 19-20F จากรายได้เติบโตต่อเนื่องตามการใช้บริการ และผลของค่ารักษาโรครุนแรงสูงขึ้น
  • Valuation: แม้การเติบโตปีนี้จะอ่อนแอกว่ากลุ่ม แต่ราคาหุ้นถือว่าตอบรับไปมากแล้ว Laggard กลุ่มมาก โดย YTD กลุ่ม +11.9% vs BH -5.3% มองเป็นจุดทยอยซื้อที่ดีอีกครั้ง และมี Valuation Discount มี PER19F อยู่ที่ 29x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 32x upside เปิดกว้าง 31% ในขณะที่พื้นฐานแข็งแกร่ง เป็นรพ.พรีเมียร์ที่เน้นรักษาโรครุนแรง  มี GPM, EBITDA margin สูงสุดในกลุ่ม รพ.
  • Catalyst: Global Healthcare Index ทดสอบจุดสูงสุด + เข้าสู่ช่วงฤดูฝนเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มร.พ. + คาด 3Q18F เป็นไตรมาสดีสุดของปี

AMANAH (TP18F 3.26*):  Support 1.9/1.85 Resistant 2.0/2.08

  • Theme: Earnings play
  • Earnings Outlook: ก้าวสู่ธุรกิจจำนำทะเบียนรถยนต์เต็มตัว (คล้าย SAWAD) และ Transform สำเร็จ พลิกกลับมากำไร 3 ไตรมาสติดกัน และคาดกำไรปีนี้ Turnaround เต็มตัว +244% y-y (CAGR 18-20F จะโตเด่นถึง +99%) สนับสนุนจาก 1) Loan growth +23% 2) Cost of fund ต่ำจากบ. แม่สนับสนุน 3) Yield ระดับ 20% 4) NPL แนวโน้มลดลงต่ำเหลือ 7% 5) พอร์ตสินเชื่อยังมีขนาดเล็ก ขณะที่ D/E ยังต่ำเพียง 1.8 เท่า
  • Valuation: ราคาหุ้นซื้อขาย Valuation ที่ยังมี Discount โดย P/E 18F 11.5 เท่า ยังต่ำกว่า SAWAD และ MTC ที่สูง 20-25x เท่า 
  • Catalyst: คาดกำไรปกติใน 3Q18F จะเติบโตทั้ง y-y (3Q17: กำไรปกติ 11.6 ลบ. + กลับสำรองเป็นกำไรพิเศษ 37 ลบ.) และ q-q จากแรงหนุนยอดปล่อยสินเชื่อใหม่เติบโตในอัตราเร่งมากกว่า 2Q18 + คาดตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ (provision) ลดลง q-q

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 24 ส.ค. 2561 เวลา : 10:41:41

23-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 23, 2024, 8:08 pm