|
|
|
|
|
|
“Selective Play”
CNS Daily Strategy: คาดตลาด “Sideway” ต้าน 1709/1716จุด รับ 1697/1692จุด การเจรจาสหรัฐฯ-จีนยังไม่ได้ข้อสรุป ขณะที่ทั้งสองประเทศเริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันรอบที่ 2 25% วงเงิน 1.6 หมื่นล้านเหรียญแล้ว กดดันบรรยากาศการลงทุนโดยรวม แต่ตลาดเอเชียได้แรงหนุนจาก Fund Flows วานนี้ที่ไหลเข้าเอเชียทุกประเทศ โดยนับเป็นการซื้อสุทธิ 3 วันติดต่อกัน รวม 770 ล้านเหรียญ หนุนเอเชียฟื้นตัวได้ ซึ่งไทยได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากมาตรการควบคุม Naked Shorts คาดลดความผันผวนลดต่ำลงจากช่วงก่อนหน้า วันนี้แนะนำ Theme “Selective Play” : CPALL, BH, AMANAH
Nomura : Key Factors
- (*) Ex Factor: การเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนวานนี้ ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
- (*) Ex Factor: สหรัฐฯ-จีนเริ่มเก็บภาษีนำเข้ารอบ 2 25% วงเงิน 1.6 หมื่นล้านเหรียญแล้ว
- (+) Asia: Fund Flows วานนี้ซื้อสุทธิในทุกประเทศ และนับเป็นการซื้อสุทธิ 3 วันติดต่อกัน
- (+) TIPs: ต่างชาติซื้อสุทธิ 47 ล้านเหรียญ เป็นวันแรก หลังจากขาย 9 วันติดต่อกัน
- (+) TH: ตลาดหลักทรัพย์ออกมาตรการควบคุม Naked Short คาดจะลดความผันผวนได้
- (*) Fund Flow:ล่าสุดซื้อหุ้น +4ลบ, Short Future -4,122สัญญา,ซื้อBond+2,591ลบ
- (-) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -0.04% สู่ $67.83/bbl / BRT -0.07% สู่ $74.73/bbl
Nomura Daily Top Picks: CPALL, BH, AMANAH
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Sideway” ต้าน 1709/1716จุด รับ 1697/1692จุด การเจรจาเพื่อลดข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนวานนี้ ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ขณะที่ทั้งสองประเทศต่างก็ประกาศบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันรอบที่ 2 ในอัตรา 25% วงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์แล้ว ซึ่งความไม่แน่นอนในประเด็นการค้า กดดัน Sentiment การลงทุนโดยรวมในระยะสั้น ขณะที่มีโอกาสที่ทั้งสองจะจัดการเจรจากันขึ้นอีกครั้ง ก่อนการประชุมสุดยอดระหว่างปธน.Donald Trump และปธน.สี ที่อาจจะเกิดขึ้นในเดือนพ.ย.นี้ได้ นอกจากนี้ ตลาดเอเชียได้รับ Sentiment บวกจากทิศทาง Fund Flows วานนี้ที่ซื้อสุทธิในทุกประเทศ และนับเป็นการซื้อสุทธิ 3 วันติดต่อกัน มูลค่ารวมกว่า 770 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งสำหรับ TIPs ต่างชาติซื้อสุทธิ 47 ล้านเหรียญ เป็นวันแรก หลังจากขาย 9 วันติดต่อกัน คาดเป็นปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันตลาดเอเชียกลับมาฟื้นตัวได้ โดยตลาดหุ้นไทยได้รับจิตวิทยาบวกจากการที่ตลาดหลักทรัพย์ออกมาตรการควบคุม Naked Short โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งจะต้องมีการถือครองหุ้นก่อนที่จะทำการ Short ได้ คาดจะลดความผันผวนของตลาดหุ้นไทยได้ ส่วนประเด็นที่ต้องติดตามวันนี้ การประกาศรายชื่อ FTSE Rebalance ช่วงค่ำวันนี้ จะเป็นปัจจัยบวก เนื่องจาก EM ASIA ถูกเพิ่มน้ำหนัก จากการยกระดับของ Poland ไปเป็น FTSE DM ดังนั้นจับตากระแสเงินไหลเข้าในช่วงปลายเดือนนี้ถึงเดือน กย 2018
Asset allocation : หุ้น 75% และเงินสด 7.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%
Daily Strategy : ถือหุ้น 75% Sector Rotation เน้นสะสม Domestic Play BBL, KBANK, CPALL, ROBINS CK, STEC, SEAFCO, PYLON, AMATA, GOLD, ERW, BH, AOT, ERW และ Global Play (PTT, IVL) วันนี้เน้น “Theme “Selective Play”
- Global Health Care(ดัชนีชี้นำหุ้นกลุ่มการแพทย์โลก) ทรงตัว ใกล้จุดสูง หนุน BH, BDMS / วันนี้ นักลงทุนจีน 400ราย ลงพื้นที่ EEC หนุน AMATA, WHA
- DTV : กสทช ส่งสัญญาณรวมช่องได้ บวกต่อ BEC, RS, WORK, MONO, NMG
- วงจรดอกเบี้ยขาขึ้น น่าจะเริ่มปลายปีนี้ หลัง BOT ส่งสัญญาณ บวกต่อกลุ่ม BANK แนะนำ BBL, KBANK เด่น และ Laggard TMB(แจ้งตลาดไม่มีเงินลงทุนในตุรกี)
- TOR Duty Free จะออกมาต้น กย 2018 หนุน AOT
- ICT : การลงทุน 4G ผ่านไปแล้ว อุตสาหกรรมแข็งขันเบาลง หนุน ADVANC, TRUE
- Thailand Future Fund ยื่น Filing ใน 1-2สัปดาห์นี้ บวก : STEC, CK, AMATA
- กลุ่มรพ + โรงแรม เริ่มได้ประโยชน์จากช่วง Seasonal แนะนำ AOT, ERW, BH
- Portfolio Top Picks AUG 2018 แนะนำ AMATA, AOT, BBL, BH, CPALL, STEC, AMANAH
- 2H18 Theme Domestic : Election play when oil surge : PTT, IVL, BBL, KBANK, CPALL, CK, STEC, SEAFCO, PYLON, AMATA, GOLD
2H18 Theme Domestic : Election play when oil surge
Best Picks 2H18 : PTT, IVL, BBL, KBANK, CPALL, CK, STEC, SEAFCO, PYLON, AMATA, GOLD
1. Index Driver : PTT, BBL, KBANK, CPALL, PTTEP, IVL
2. Government Spending : STEC, CK, PYLON, SEAFCO, AMATA, ROJNA, SCC
3. Property : GOLD, SC
4. Tourism & Transport : ERW, BTS
5. Global Play : IVL, PTL
6. ICT : ADVANC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
CPALL (TP18F 92*): Support 69.0/68.5 Resistant 71.25/72.5
- Theme: Domestic play
- Earnings Outlook: คาดแนวโน้มกำไรช่วง 2H18F จะดีกว่า 1H18F โดยเฉพาะ 3Q18F จะเป็นพีคของกำไร ตามปัจจัยด้านฤดูกาลธุรกิจค้าปลีก, การขยายสาขาอย่างต่อเนื่องของร้านสะดวกซื้อผสานกับความสามารถในการทำกำไรที่จะดีขึ้นตามสัดส่วนสินค้ากลุ่มอาหารพร้อมทานกับเพื่อสุขภาพ+ความงามและค่าใช้จ่ายทางการเงินที่จะลดลง หลังคาดนำเงินที่ได้จากการลดสัดส่วนหุ้น MAKRO ไปทยอยคืนหนี้ 2 ก้อนรวมมูลค่า 1.5 หมื่นลบ
- Valuation: มองเป็นโซนซื้อที่ได้เปรียบ หลังราคาหุ้นปรับลงมา 20% ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาตามกลุ่ม Big cap และเม็ดเงินต่างชาติที่ขายหนัก ขณะที่เชิงพื้นฐานยังเติบโตดี 20%y-y เรามองเป็นจุดเข้าลงทุนที่ดี ซื้อขาย PER18F 26.13x เท่า ยังต่ำกว่าช่วงพีคที่เคยสูง 35x และเป็น Big cap ที่ยังเติบโตดี
- Catalyst: วานนี้ตลาดประกาศห้ามทำธุรกรรม Naked short (การ Short หุ้น โดยที่โบรกเกอร์ยังไม่มีหุ้นในพอร์ต หลักๆเป็นธุรกรรมที่จบในวัน) ส่วนมากเกิดจากโบรกต่างประเทศ เป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่ม Big cap ที่มียอด Short sell สูง + เข้าสู่ช่วงเทศกาลแสตมป์หนุนกำไร 3Q18F เป็นจุดพีค
BH (TP19F 235*): Support 176/173 Resistant 183.5/186
- Theme: Seasonal Play
- Earnings Outlook: ชื่อเสียงของรพ.ที่จะดึงดูดทั้งผู้ป่วยและแพทย์มือดี ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่รักษาความสามารถในการแข่งขันระยะยาว และยังมีราคาถูกกว่าการรักษาในต่างประเทศ แนวโน้ม 3Q18F เราคาดว่ากำไรกลับมาเติบโต y-y และ q-q เป็นไตรมาสดีสุดของปี ส่วนระยะยาวคาดกำไร +10%CAGR 19-20F จากรายได้เติบโตต่อเนื่องตามการใช้บริการ และผลของค่ารักษาโรครุนแรงสูงขึ้น
- Valuation: แม้การเติบโตปีนี้จะอ่อนแอกว่ากลุ่ม แต่ราคาหุ้นถือว่าตอบรับไปมากแล้ว Laggard กลุ่มมาก โดย YTD กลุ่ม +11.9% vs BH -5.3% มองเป็นจุดทยอยซื้อที่ดีอีกครั้ง และมี Valuation Discount มี PER19F อยู่ที่ 29x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 32x upside เปิดกว้าง 31% ในขณะที่พื้นฐานแข็งแกร่ง เป็นรพ.พรีเมียร์ที่เน้นรักษาโรครุนแรง มี GPM, EBITDA margin สูงสุดในกลุ่ม รพ.
- Catalyst: Global Healthcare Index ทดสอบจุดสูงสุด + เข้าสู่ช่วงฤดูฝนเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มร.พ. + คาด 3Q18F เป็นไตรมาสดีสุดของปี
AMANAH (TP18F 3.26*): Support 1.9/1.85 Resistant 2.0/2.08
- Theme: Earnings play
- Earnings Outlook: ก้าวสู่ธุรกิจจำนำทะเบียนรถยนต์เต็มตัว (คล้าย SAWAD) และ Transform สำเร็จ พลิกกลับมากำไร 3 ไตรมาสติดกัน และคาดกำไรปีนี้ Turnaround เต็มตัว +244% y-y (CAGR 18-20F จะโตเด่นถึง +99%) สนับสนุนจาก 1) Loan growth +23% 2) Cost of fund ต่ำจากบ. แม่สนับสนุน 3) Yield ระดับ 20% 4) NPL แนวโน้มลดลงต่ำเหลือ 7% 5) พอร์ตสินเชื่อยังมีขนาดเล็ก ขณะที่ D/E ยังต่ำเพียง 1.8 เท่า
- Valuation: ราคาหุ้นซื้อขาย Valuation ที่ยังมี Discount โดย P/E 18F 11.5 เท่า ยังต่ำกว่า SAWAD และ MTC ที่สูง 20-25x เท่า
- Catalyst: คาดกำไรปกติใน 3Q18F จะเติบโตทั้ง y-y (3Q17: กำไรปกติ 11.6 ลบ. + กลับสำรองเป็นกำไรพิเศษ 37 ลบ.) และ q-q จากแรงหนุนยอดปล่อยสินเชื่อใหม่เติบโตในอัตราเร่งมากกว่า 2Q18 + คาดตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ (provision) ลดลง q-q
|
บันทึกโดย : Adminวันที่ :
24 ส.ค. 2561 เวลา : 10:41:41
|
|
|
|
|
ข่าวเด่น