ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดีดตัว จากการหารือเรื่องข้อตกลง NAFTA
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังสหรัฐฯ และเม็กซิโกตกลงที่จะแก้ไขข้อตกลงการซื้อขายในทวีปอเมริกาเหนือ (NAFTA) เพื่อทำให้แคนนาดาต้องเข้าร่วมในข้อตกลงครั้งนี้ซึ่งมีมูลค่าการซื้อขายมากถึง 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ หากแคนาดาไม่ยอมเข้าร่วม ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขู่เพิ่มภาษีรถที่ผลิตจากแคนาดาส่งเข้าสู่สหรัฐฯ ซึ่งหลังจากประกาศเรื่องข้อตกลงในวันจันทร์ที่ผ่านมาส่งผลให้ค่าเงินเม็กซิโกและแคนาดาแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลล่าส์สหรัฐฯ
+ การหารือภายในวันศกร์นี้เรื่องข้อตกลงใหม่ของ NAFTA ซึ่งมีผลต่อการซื้อขายยานพาหนะภายในทวีปอเมริกาเหนือ ส่งผลให้หุ้นของอุตสาหกรรมยานยนต์ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นและหนุนให้ดัชนี Dow Jones ปรับเพิ่มขึ้น 256.14 จุด
+/- ผลของข้อตกลงว่าด้วยการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบระหว่างกลุ่มประเทศโอเปก (OPEC) และ (Non-OPEC) ได้รับแรงหนุนต่อเนื่องจากการผลิตน้ำมันดิบของอิหร่านที่ปรับลดหลังถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม อิหร่านยังคงเรียกร้องให้ยุโรปรับรองช่องทางการเงินและการซื้อขายน้ำมันดิบจากอิหร่าน ครอบคลุมถึงประกันและการขนส่งน้ำมันดิบด้วย เพื่อเป็นหนทางการเพิ่มกำลังการผลิตและส่งออกน้ำมันดิบอีกครั้ง
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานน้ำมันเบนซินที่ยังคงอยู่ในระดับสูง หลังประเทศไทยและจีนส่งออกน้ำมันเบนซินชดเชยส่วนที่ขาดหายไปจากโรงกลั่นในประเทศอินเดียซึ่งต้องปิดซ่อมบำรุงกระทันหัน
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ในเอเชียยังคงทรงตัว ขณะที่การส่งออกน้ำมันดีเซลจากประเทศอินเดียยังคงอยู่ในระดับต่ำหลังโรงกลั่นในประเทศปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉิน
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 65-70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 72-77 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างเนื่อง หลังสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันดิบจากอิหร่าน และเรียกร้องให้ทุกประเทศหยุดการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านนับตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. นี้เป็นต้นไป
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับลดลง หลังโรงกลั่นคงอัตราการกลั่นในระดับสูงต่อเนื่อง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 ส.ค. ปรับตัวลดลงราว 5.8 ล้านบาร์เรล
ความต้องการใช้น้ำมันโลกคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก หลังสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
ดัชนีและราคาที่สำคัญ
ข่าวเด่น