Market Summary 28/08/2018

หุ้นแนะนำพิเศษ

SSP (ราคาปิด 8.65 ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่างการปรับประมาณการเชิงบวก)

• เข้าลงนามซื้อหุ้นของบริษัท TTQN ซึ่งดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กำลังการผลิต 50 MW ที่เวียดนาม ในโครงการ Binh Nguyen Solar Power Plant ในสัดส่วนร้อยละ 80 มูลค่ารวมไม่เกิน 584.2 ลบ. คาดโครงการจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายใน 2Q62  โดยรัฐบาลเวียดนามรับซื้อค่าไฟแบบ FiT 0.0935 USD/KWh เป็นระยะเวลา 20 ปี ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดหาที่ดินและขอใบอนุญาตก่อสร้าง และสัญญาซื้อขายไฟฟ้า
• ความเห็น : บริษัทมีกำไรสุทธิ 1H61 ที่ 259 ลบ. คิดเป็น 55% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 61 ที่ 469 ลบ. +38%YoY โดยอยู่ระหว่างปรับประมาณการเชิงบวก เนื่องจากโครงการโซเอน (8MW) COD ตั้งแต่ต้นเดือนส.ค. และโครงการมองโกเลีย (16MW) อาจ COD เร็วกว่ากำหนดจากเดิมช่วง 1Q62 เป็น 4Q61 ทำให้ผลประกอบการใน 2H61 มีโอกาสเติบโตจาก 1H61 เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ SSP

ข้อมูล Public Presentation หุ้นที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย “C”

• AQ ผู้บริหารคาดว่าการขายที่ดิน 4,300 ไร่ มูลค่า 8.95 พันลบ.จะสามารถเปิดประมูลได้อีกครั้งในช่วงไตรมาส 4/61 เพื่อนำเงินไปคืน KTB ซึ่งมีมูลหนี้คงเหลือ 8.36 พันลบ.ในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปี 62 มีแผนลดขาดทุนสะสม 2H61 จะเปิดโครงการแนวราบใหม่ 2 โครงการ มูลค่ารวม 800-1,000 ลบ. ในทำเลถนนเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 เฟส 2 มูลค่า 300-400 ลบ. และบ้านเดี่ยวในจังหวัดชลบุรี มูลค่า 500-600 ลบ. ทั้งนี้ 1H61 บริษัทเปิดโครงการแนวราบในย่านรังสิต มูลค่า 200-300 ลบ. (โอนหมดแล้ว) และโครงการแนวราบใกล้กับสวนสยาม มูลค่า 200-300 ลบ. มียอดขาย 50% จะเริ่มทยอยโอนช่วง 2H61  บริษัทยังมีรายได้ประจำจากธุรกิจโรงแรม 3 แห่ง ได้แก่ โรงแรม Shasa Resort & Residences เกาะสมุย และโครงการ Malibu Resort & Beach Club เกาะสมุย ซึ่งมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 60-70% โรงแรม Flora Creek เชียงใหม่ อัตราการเข้าพักเฉลี่ย 40% และในเดือน ส.ค.จะเปิดให้บริการโรงแรม ALIX Hotel ใกล้กับโรงพยาบาลกรุงเทพ ซอยศูนย์วิจัย จำนวน 100 ห้อง
• NEWS ตั้งเป้าล้างขาดทุนสะสม 4.1 พันลบ. ภายในปี 62 จากการเพิ่มทุนและลดทุนจดทะเบียน รวมถึงพิจารณาตั้งด้อยค่าเงินลงทุนในบริษัทย่อย รวมทั้งคาดว่ารายได้ปีนี้โตแตะ 500 ลบ.จากปี 60 ที่ 273 ลบ.จากขยายช่องทางหารายได้เพิ่มและขยายฐานผู้ชม  ยอมรับว่าปีนี้น่าจะยังขาดทุน หลังจาก 1H61 มีผลขาดทุน 173.20 ลบ. แต่เป็นขาดทุนที่ลดลงต่อเนื่อง จึงเชื่อว่าขาดทุนทั้งปีนี้จะลดลงจากปีก่อนโดยมีกลยุทธ์ เน้นการควบคุมค่าใช้จ่ายและลดคอนเท้นท์ที่ไม่สร้างรายได้  ตั้งแต่เดือนมิ.ย.เป็นต้นมา EBITDA กลับมาเป็นบวกแล้ว และกำไรขาดทุนสุทธิหลังหักเงินชดเชยต่างๆ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

Market View  : ขอพักบ้าง
หุ้นแนะนำพิเศษ : SSP
หุ้นมีข่าว : BJCHI  AQ  NEWS  ORI
Technical Insight : DELTA  MC
  SET Index วานนี้เปิดบวกในตอนเช้า ตามตลาดทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ หนุนด้วยปัจจัยบวกหลังจากสหรัฐ-เม็กซิโก บรรลุข้อตกลงการค้า ก่อนย่อตัวลงมาหลังจากที่ดัชนีไม่ผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1,730 จุด ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,718.15 จุด (+0.91 จุด) Volume 5.1 หมื่นลบ. จาก Foreign Net –989.46 ลบ. TFEX Net +3,795 สัญญา ตราสารหนี้ +1,858 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย 
+ดาวโจนส์ปิดบวกเล็กน้อยขานรับผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 18 ปี 
+ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 6.2% สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวสู่ระดับ 133.4 ซึ่งสูงสุดในรอบ 18 ปี 
+สศอ.เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ก.ค.61 โต 4.6% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15
+ครม.ไฟเขียวจัดเก็บภาษีกองทุนตราสารหนี้ทุกประเภท กองทุนผสมหุ้น ณ ที่จ่าย 15% จากผลตอบแทนดอกเบี้ยที่ผู้ออกตราสารหนี้จ่ายให้แก่กองทุนฯ ยกเว้นเฉพาะ RMF เริ่มใช้มีปี 62
- น้ำมันดิบปิดลบเนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรก่อนที่ EIA จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ในวันนี้
-สหรัฐเล็งเก็บภาษีนำเข้าล้อเหล็กรถยนต์จากจีน เหตุรัฐให้เงินอุดหนุน ขณะที่สหรัฐแจกเงินเกษตรกร 4.7 พันล้านดอลลาร์ เยียวยาผลกระทบสงครามการค้า
-"มูดี้ส์"หั่นเรทติ้งธนาคาร 20 แห่งของตุรกี 
+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 1.96 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 32.57 บาท/US
**29 – 31 ส.ค. ประเทศไทยจัดงาน Thailand Focus 2018
ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีปัจจัยหนุนจากตลาดหุ้นต่างประเทศปรับขึ้น ราคาน้ำมันปิดบวก  แต่ยังมีปัจจัยกดดันจาก  fund flow ไหลออกและความกังวลสงครามการค้าโลก คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,710-1,730 จุด
กลยุทธ์การลงทุน  
- หุ้น Theme EEC play : AMATA, WHA, EASTW, ATP30, ORI 
-  PTT, AOT, CPALL, ADVANC, SCC, SCB, MINT, TOP, BEM, TMB และ TU เข้าร่วม roadshow ในงาน Thailand Focus (ที่มา ข่าวหุ้น)
- หุ้นที่คาดว่า 2H61 จะเติบโตต่อเนื่อง ANAN ORI SC KCE XO CPF SSP SVI
- ค่าการกลั่นเริ่มปรับตัวขึ้น SPRC IRPC TOP BCP
- ROBINS HMPRO ครม.คง VAT ที่ 7% อีก 1 ปี

หุ้นมีข่าว  

BJCHI Analyst meeting (Neutral)

• ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเกี่ยวกับงานโครงสร้างเหล็ก งานประกอบและเชื่อมต่อ และงานแปรรูปและประกอบกลุ่มชิ้นงานขนาดใหญ่ซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมัน โดยงานส่วนใหญ่กว่า 90% เป็นงานจากต่างประเทศ ขณะที่รายได้ 1H61 ปรับตัวลงสู่ 650 ล้านบาท -11%YoY ตามปริมาณในอุตสาหกรรมที่ลดลงตามราคาน้ำมัน
• ปัจจุบันบริษัทมี Backlog อยู่ที่ 1,950 ล้านบาทซึ่งคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้จนถึงปลายปี 62 นอกจากนี้บริษัทมีแผนประมูลงานอีกราว 1.9 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะได้งานอย่างน้อย 3-4 พันล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ไปจนถึงปี 63
• ความเห็น เราคาดว่า 2H61 โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้จาก Backlog ราว 20% อย่างไรก็ตาม 3Q61 ยังมีการรับรู้ค่าใช้จ่ายจากงานเก่าเข้ามากดดันผลประกอบการ แต่ใน 4Q61 ค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะหมดไปและรับรู้รายได้และค่าใช้จ่ายของโครงการก่อสร้างในปัจจุบัน แต่เรามีมุมมอง Neutral ต่อการลงทุนใน  BJCHI เนื่องจากปริมาณงานในมือที่มีน้อยและคาดว่าการแข่งขันประมูลงานยังสูงเนื่องจากผู้รับเหมาในอุตสาหกรรมมีปริมาณไม่มากนัก

  +ORI (ราคาปิด 18.70 ซื้อ Bloomberg Consensus 23.77) ประกาศปรับเพิ่มเป้าหมายยอดขาย presale เป็น 2.4 หมื่นลบ. จากเดิม 2 หมื่นลบ. เนื่องจากโครงการที่เปิดใหม่มีผลตอบรับดีและในช่วงที่เหลือของปีนี้เตรียมเปิดขายคอนโดฯใหม่ 3 โครงการมูลค่ารวม 2.28 หมื่นลบ. ภายใต้แบรนด์ "พาร์คออริจิ้น"ทำเลพญาไท ทองหล่อ และพร้อมพงษ์ ส่วนเป้ารายได้ปีนี้จะเพิ่มเป็น 1.6 หมื่นลบ.จากเดิม 1.5 หมื่นลบ.สิ้นเดือนมิ.ย.มี backlog 3 หมื่นลบ.จะทยอยโอนภายใน 2H61 ราว 1 หมื่นลบ.
  ความเห็น แนวโน้มผลการดำเนินงานยังเติบโตโดดเด่นในปีนี้ จากยอดโอนโครงการ Park 24 ที่เริ่มโอนไตรมาสสุดท้ายปี 60 และรับรู้รายได้เต็มปีในปีนี้ ด้วยอัตรากำไรขั้นต้นในเฟส 2 ที่ปรับดีขึ้นกว่า Park 24 เฟสแรก Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 เฉลี่ย 3,021 ล้านบาท +50%YoY  
  +TOP พร้อมเดินหน้าโครงการ CFP เพิ่มประสิทธิภาพโรงกลั่นมูลค่ากว่า 4 พันล้านเหรียญฯ แล้วเสร็จ 5 ปี
  +AOT เซ็นสัญญาจ้าง CNT ขยายสนามบินกระบี่และขอนแก่นรองรับผู้โดยสารเพิ่ม มุ่งสู่ศูนย์กลางการบินภูมิภาค
  +DTAC หวัง กสทช.ออกมาตรการเยียวยาคลื่น 850 MHz ก่อนหมดสัมปทาน 15 ก.ย.นี้,ยืนยันลูกค้าจะได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
  +บมจ.แม็คกรุ๊ป (MC) บอร์ดอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนวงเงินไม่เกิน 120 ล้านบาท เพื่อซื้อหุ้นคืนจากตลท.ไม่เกิน 8 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 1% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด กำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืน 12 กันยายน 2561 ถึง วันที่ 11 มีนาคม 2562
  NMG ขายหุ้นทั้งหมดใน"เอ็นเอ็มแอล" ผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งสื่อสิ่งพิมพ์ มูลค่า 9 ลบ.ให้บ.ย่อยของ SPPT เนื่องจากบริษัทประสบสภาวะขาดสภาพคล่องทางการเงิน และกระแสเงินสดเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจ เพราะมีผลการดำเนินงานขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงพิจารณาปรับโครงสร้างธุรกิจ