คำแนะนำ
เน้นการเข้าซื้อหากราคาปรับตัวลดลงไม่หลุดแนวรับ1,194 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากไม่หลุดแนวรับราคาจะพยายามปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน อย่างไรก็ตามปริมาณการซื้อขายในคืนนี้อาจเบาบางกว่าปกติเพราะตลาดสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันแรงงาน
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,194 1,182 1,171
แนวต้าน 1,217 1,229 1,238
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.74 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ปิดตลาดในเดือนส.ค.ในแดนลบเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันซึ่งถือเป็นการปรับตัวลงที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2013 โดยในระหว่างการซื้อขายของวันศุกร์ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,209 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะลดช่วงบวกลงจากการแข็งค่าของดอลลาร์หลังการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐจากม.มิชิแกนที่ปรับตัวขึ้นเกินคาดแตะระดับ 96.2 ในเดือนส.ค. ประกอบกับดอลลาร์ที่อยู่ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยได้รับแรงหนุนเพิ่ม หลังจากสหรัฐและแคนาดายังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ฉบับใหม่ได้ภายในวันศุกร์ที่ 31 ส.ค. ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและแคนาดาเพิ่มขึ้นหลังประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวในวันเสาร์ว่า "ไม่มีความจำเป็นทางการเมือง" ที่ต้องเก็บแคนาดาไว้ในข้อตกลง NAFTA ฉบับใหม่ ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลงในวันศุกร์ -2.65 ตัน สำหรับวันนี้ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเนื่องจากตลาดเงิน ตลาดทุนรวมถึงตลาดทองคำนิวยอร์กจะปิดทำการเนื่องในวันแรงงานสหรัฐ ดังนั้นปริมาณการซื้อขายอาจเบาบางกว่าปกติ
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำอาจมีการแกว่งตัวค่อนข้างจำกัด แนะนำลงตามกรอบราคา หากระยะสั้นก็มีแรงดีดกลับและพยายามจะดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านระดับ 1,217 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้ อาจจะเกิดแรงขายสลับออกมาอีกครั้ง ทั้งนี้ ประเมินแนวรับในโซน 1,194 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
เข้าซื้อหากราคาสามารถยืนเหนือ 1,194 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยตัดขาดทุนหากไม่สามารถยืนเหนือ 1,182 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับการเปิดสถานะขายสามารถเสี่ยงเปิดสถานะเพื่อทำกำไรระยะสั้นหากราคาไม่ผ่านบริเวณ 1,217 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ควรชะลอการขายออกไปและควรลดสถานะขายลงหากราคาสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวไปได้
ข่าวเด่น