ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.ฟินันเซียไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน SET Index คาดว่าจะแกว่งตัว (04/09/61)


 กลยุทธ์วันนี้ >> Domestic Play//Accumulate on Weakness

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ในกรอบค่อนข้างแคบและปิดทรงตัว ขณะที่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง โดยตลาดขาดปัจจัยบวกใหม่และยังได้รับแรงกดดันจากประเด็นสงครามการค้าและวิกฤตค่าเงินบางประเทศ สถาบันในประเทศยังซื้อสุทธิอีกเล็กน้อย 351 ลบ. ส่วนนักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่องและหนาแน่นขึ้นเป็น 1.9 พันลบ. (แต่ Long ใน Index Futures ราว 1.2 พันสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET Index คาดว่าจะแกว่งตัว Sideways ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางต่อเนื่องหลังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น โดยตลาดต่างจับตาประเด็นการค้าระหว่างสหรัฐฯและประเทศต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านเหรียญหลังทำประชาพิจารณ์เสร็จวันที่ 6 ก.ย. ทำให้เรายังคาดว่าหุ้นในกลุ่ม Domestic Play จะยังสามารถ Outperform ตลาดได้จากปัจจัยภายในประเทศทั้งแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจและการเมืองที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ 
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้น Domestic Play//ทยอยสะสมหุ้นเพิ่มในช่วงอ่อนตัว
หุ้นเด่นเดือนก.ย. : ASK, CHG, CK, CPALL, PRM  

Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$293ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$217ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$57ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไต้หวันประเทศเดียว US$14ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค ตลาดกลับมากังวลต่อสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและนานาประเทศอาทิ จีน และแคนาดา กันอีกครั้ง 

ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> SYNEX <<

  • แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 20 บาท
  • เช้านี้มีประชุมนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุน คาดว่าจะทำให้ตลาดเข้าใจถึงงบ 2Q18 ที่ชะลอชั่วคราว และแนวโน้ม 2H18 ที่จะกลับมาโตเด่นมากขึ้น โดยมีแรงหนุนทั้งสินค้าของ Apple และ Synergy ที่จะเกิดร่วมกับ BAF เราคาดกำไรทั้งปีนี้ 750 ลบ. +20% Y-Y และปีหน้า 884 ลบ. +18% Y-Y
  • PE2018-19 เพียง 11-13 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังของตัวเองที่ 16 เท่า และค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 20 เท่าอยู่มาก

ประเด็นสำคัญวันนี้
  (+) เงินเฟ้อของไทยเดือน ส.ค. เร่งตัวขึ้น +1.62% Y-Y สูงขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 14 ตามราคาพลังงาน อาหารสด และต้นทุนการผลิตสินค้าบางชนิด เงินเฟ้อเดือน ส.ค. เข้าสู่กรอบคาดการณ์เงินเฟ้อของ ก.พาณิชย์เป็นเดือนที่ 6 เราคาดว่ากนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้งปลายปีนี้ ตามทิศทางดอกเบี้ยในตลาดเงินที่ขยับขึ้นไปรอแล้วล่วงหน้า โดยหลังจากนี้จะเหลือการประชุมอีก 3 ครั้ง คือ 19 ก.ย. 14 พ.ย. และ 19 ธ.ค. ถ้าเข้าสู่วงจรดอกเบี้ยขาขึ้น แบงก์ใหญ่จะได้ประโยชน์ Top Pick คือ KBANK (ราคาเป้าหมาย 235 บาท) BBL (ราคาเป้าหมาย 232 บาท)  
  (+) TTCL เริ่มมีสัญญาณบวกจากการซื้อหุ้นเพิ่มุทน 56 ล้านหุ้น (9.1% ของทุนชำระแล้ว) ของ Sojitz Corp. (ญี่ปุ่น) ที่ในราคา 7.795 บ/หุ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือแล้ว ยังมีโอกาสได้งานแถบรัสเซียที่ Sojitz มีการลงทุนและฐานลูกค้าอยู่แล้วด้วย ส่วนแนวโน้มอุตสาหกรรมคาดฟื้นตัวตั้งแต่ปี 2019 จาก (1) ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นมาที่US$70/บาร์เรล ทำให้กลุ่มพลังงานและปิโตรฯ เริ่มกลับมาลงทุน (2) เม็ดเงินที่คาดว่าจะไหลเข้ามาลงทุนใน EEC หลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้น อย่างไรก็ตาม Upside ถือว่าจำกัดเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายเฉลี่ยของ IAA Concensus ที่ 8.48 บาท จึงแนะนำให้เก็งกำไรอย่างระมัดระวัง โดยหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของกลุ่มพลังงานและยังมี Upside คือ PRM ซึ่งเป็น Top pick ในกลุ่มเรือของเรา (ราคาเป้าหมาย 9 บาท), BJCHI (ราคาเป้าหมายเฉลี่ยของ IAA อยู่ที่ 2.85 บาท) และ TRC (non-rated) 
  (+) THMUI เรายังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2018 เท่ากับ 3.10 บาท อิง PE Multiplier 20 เท่า โดยเรามีมุมมองเชิงบวกใน 3 ประเด็นคือ (1) กำไรสุทธิ 2H18 มีแนวโน้มเติบโตสูงทั้ง H-H และ Y-Y จากยอดขายลวดสลิงที่จะเร่งตัวขึ้นตามการขยายท่าเรือ และรับรู้งานวางท่อปะปาส่วนที่เหลือ รวมถึงการได้งานวางระบบบำบัดน้ำเสียเพิ่ม (2) อัตรากำไรขั้นต้นจะเริ่มขยับขึ้น จากการให้บริการทดสอบลวดสลิงที่เป็นธุรกิจ High Margin (3) ราคาหุ้นปัจจุบันยังถูกมาก โดยคิดเป็น PE2018-19 เพียง 9-11 เท่า และ PBV 1.3-1.4 เท่า ขณะที่ ROE สามารถสร้างได้ในระดับที่ดีราว 13-15% และให้ปันผลสูง 5% ต่อปี
  (+) ASAP ประกาศแผนธุรกิจ 3 ปี น่าตื่นเต้นกว่าที่เราคาดไว้ แต่อาจต้องมองข้ามผลประกอบการปีนี้ เพราะธุรกิจการขายรถหมดสัญญาที่เกิดขึ้นช้ากว่าคาด สำหรับแผนปี 2020 บริษัทตั้งเป้ารถยนต์ให้เช่าที่ 20,000 คัน ตามความนิยมของลูกค้าองค์กรที่ใช้การ Outsource มากขึ้น และการเติบโตของกลุ่มธุรกิจ Logistic อีกทั้ง จะมีรถหมดสัญญาณเช่าเพิ่มขึ้นเท่าตัวในปี 2020 หรือราว 3-4 พันคัน ซึ่งการปรับกลยุทธ์มาขายเองมากขึ้น ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นดีกว่าการขายแบบเดิม (Wholesale) บนประมาณการกำไรถึงปี 2020 เราคาดว่าจะเห็น ROE แตะ 17% ในปีดังกล่าว จาก 11% ในปี 2018 และคาดกำไรสุทธิ +37% ในปี 2019 และ +38% ในปี 2020 เราปรับมาใช้ราคาเหมาะสมปี 2019 ที่ 7.50 บาท แนะนำซื้อ
 
ปัจจัยที่ต้องติดตาม

ก.ย.

สหรัฐฯ: ISM ภาคการผลิต (ส.ค.)

ก.ย.

สหรัฐฯ: ดุลการค้า (ก.ค.)

ก.ย.

สหรัฐฯ: พิจารณาจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ, ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของ ADP (ส.ค.)

ก.ย.

สหรัฐฯ: ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (ส.ค.)

ก.ย.

จีน: ดุลการค้า (ส.ค.)

19 ก.ย.

ไทย: ประชุม กนง.

25 ก.ย.

สหรัฐฯ: ประชุม FOMC ตลาดคาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 2.25%

 

(0) ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการเนื่องจากวัน Labor Day
(0) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวผสมผสาน หลังข้อเสนอจากทางอังกฤษยังคงถูกโจมตีจากในประเทศอังกฤษเองและจากสหภาพยุโรป ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลง 
(-) ตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวลงเล็กน้อย โดยปัจจัยที่ต้องติดตามคือประเด็นที่ปธ.ทรัมป์ต้องการให้มีการเก็บภาษีสินค้าจากจีนเพิ่มภายในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของเกาหลีใต้และออสเตรเลียที่จะทยอยประกาศภายในสัปดาห์นี้เช่นกัน
(0) ค่าเงินบาทยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 32.75 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดทำการเนื่องจากวัน Labor Day
(+) ค่าการกลั่นสิงคโปร์ปรับตัวขึ้น ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ 6.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
() ราคาทองคำ COMEX ปิดทำการเนื่องจากวัน Labor Day


บันทึกโดย : วันที่ : 04 ก.ย. 2561 เวลา : 09:31:32

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 8:13 pm