Market Summary 04/09/2018

หุ้นแนะนำพิเศษ

KCE คาด 2H61 ดีกว่า 1H61 (ราคาปิด 46.00 Bloomberg Consensus 46.88)

• ดำเนินธุรกิจผลิตแผ่นพิมพ์วงจร (PCB) มีกำลังการผลิต 1.5 ล้านตารางฟุตต่อเดือน โดยจำหน่ายไปยังทวีปอเมริกา ยุโรป เอเชีย และในไทย 16% 46% 31% และ 7% ของยอดขายตามลำดับ โดยยอดจำหน่ายเป็นเงินดอลลาร์ราว 85% ของยอดขาย โดยใช้ทองแดงเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต PCB
• ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการ 3Q61 จากเข้าสู่ High Season และได้ผลบวกจากเงินบาทที่อ่อนอย่างต่อเนื่องและราคาทองแดงยังปรับตัวลงต่อสู่ 6,100 $/Ton อีกทั้งคาดว่ากำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีการติดตั้งเครื่องจักรสำหรับเจาะเพิ่มช่วยเพิ่มกำลังการผลิตสู่ 1.7 ล้านตารางฟุตต่อเดือน (2Q61 ใช้กำลังการผลิตที่ 1.4 ล้านตารางฟุตต่อเดือน)

หุ้นเริ่มซื้อขายวันแรก : TPLAS  (ราคา IPO 1.48 บาท)
ตลาด mai /สินค้าอุตสาหกรรม

• บมจ. ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (TPLAS) ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถุงบรรจุอาหารประเภท Polypropylene (PP)  มีสัดส่วนรายได้ 52% ถุงหูหิ้วประเภท High Density Polyethylene (HDPE) ภายใต้ตรา “หมากรุก” มีสัดส่วนรายได้ 36% และฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร Polyvinyl Chloride(PVC) ภายใต้ตรา”Vow Wrap” มีสัดส่วนรายได้ 12%  งวด 1H61 บริษัทมีรายได้รวม 273 ลบ. +6.7%YoY แต่กำไรสุทธิเติบโตอย่างโดดเด่นสู่ 12.5 ลบ. +75%YoY จากการบริหารจัดการลดความสูญเสียในขั้นตอนการผลิต และอัตราค่าขนส่งที่ลดลง ทำให้ NPM เพิ่มขึ้นมาที่ 4.6% จาก 2.8%
• จำนวนหุ้นที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 70 ล้านหุ้น  มูลค่าประมาณ  103.6  ลบ. ใช้ลงทุนในสินทรัพย์ถาวรประกอบด้วย ปรับปรุงอาคารโรงงานเดิม และสร้างอาคารโรงงานใหม่ พร้อมติดตั้งเครื่องจักรใหม่สำหรับการผลิตถุงพลาสติก และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
• ราคา IPO คิดเป็น  Current PER ที่ 14.80 เท่า ต่ำว่าบริษัทในตลท.ที่ทำธุรกิจคล้ายกันได้แก่ MBAX, THIP และ TPBI มีค่า PER เฉลี่ยเท่ากับ 15.47 เท่า

Market View  : กังวลสงครามการค้า
หุ้นแนะนำพิเศษ : KCE
หุ้นมีข่าว : TPLAS SYNEX ORI
Technical Insight : SYNTEC  MK    
  SET Index วานนี้ปรับตัวลดลง เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยนักลงทุนจับตาผลการเจรจาข้อตกลงการค้า NAFTA ระหว่างสหรัฐ-แคนาดารอบใหม่ ประกอบกับแรงกดดันหลังสหรัฐฯเตรียมเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนรอบใหม่วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ในวันพฤหัสบดีนี้ ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,714.41 จุด (-6.8 จุด) Volume 4.4 หมื่นลบ. จาก Foreign Net -181.02 ลบ. TFEX Net -5,104 สัญญา ตราสารหนี้ -2,170.95 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย 
+กกร. คงคาดการณ์ GDP ที่ 4.3-4.8% ส่งออก 7-10% ในปีนี้ หลังมองเศรษฐกิจ 2H/61 โตชะลอลง แม้ Q2/61 ขยายตัวสูงกว่าคาด
+น้ำมันดิบปิดบวกได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า พายุเฮอร์ริเคนเตรียมพัดถล่มอ่าวเม็กซิโก ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันสำคัญ
+ดัชนีภาคการผลิต ISM สหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 61.3 ในเดือนส.ค.แตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี 
+สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างขยับขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค.
+ม.หอการค้า เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนส.ค.อยู่ที่ 83.2 สูงสุดในรอบ 64 เดือน
+ครม.ไฟเขียวกม.เลือกตั้งท้องถิ่น 6 ฉบับ เตรียมส่งสนช.พิจารณาภายในก.ย.นี้ คาดเกิดหลังเลือกตั้งใหญ่
-ดาวโจนส์ปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐ แคนาดา และจีน
-ดัชนี PMI ภาคบริการจีนร่วงลงแตะ 51.5 ในเดือนส.ค.
+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 2.03 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 32.80 บาท/US
 *5 ก.ย. จับตาการเจรจาการค้าสหรัฐ-แคนาดา 
ตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังคงมีปัจจัยกดดันจากความกังวลสงครามการค้า  รวมทั้ง fund flow ไหลออกเพื่อลดความเสี่ยง  โดยมีปัจจัยบวกจากภาพรวมเศรษฐกิจประเทศไทยที่มีแนวโน้มดีแต่มีน้ำหนักไม่มาก  คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,700-1,720 จุด
กลยุทธ์การลงทุน  
- ลุ้น 12 ก.ย. เปิดตัว Iphone ใหม่ COM7 SPVI
- หุ้น Theme EEC play : AMATA, WHA, EASTW, ATP30, ORI 
- หุ้นที่คาดว่า 2H61 จะเติบโตต่อเนื่อง ANAN ORI SC KCE CPF SVI
- หุ้น MAI ที่ผลประกอบการ 2H61 เติบโตต่อเนื่อง XO CHAYO TACC SSP
- ค่าการกลั่นเริ่มปรับตัวขึ้น SPRC IRPC TOP BCP

หุ้นมีข่าว  

• SYNEX Analyst Meeting (ราคาปิด 13 บาท Bloomberg consensus 18.3 บาท) “ซื้อเก็งกำไร”

  รายงานกำไร 2Q61 อยู่ที่ 161.2 ลบ. +7%YoY,-23%QoQ แม้ว่ายอดขายไตรมาสนี้ อยู่ที่ 9,573 ลบ. +16%YoY,+7%QoQ เป็นผลมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงจาก 4.19% ใน 2Q17 และ 4.85% ใน 1Q18 เป็น 4.09% ใน 2Q18  จากการเร่งขายสินค้ารุ่นเก่าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำ ขณะที่ รายได้ 1H61 อยู่ที่ 18,484 ลบ. +12.57%YoY และ กำไรอยู่ที่ 371 ลบ. +23.82%YoY
รายได้ปี 61 ผบห.ตั้งเป้า เติบโตกว่า 15% คาดเร่งตัวขึ้นในช่วง 2H61 จากการเข้าสู่ High Season ประกอบกับ การเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ อย่าง Apple ที่จะเปิดตัว IPhone ในช่วงเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งทางบริษัทคาดว่ามีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่ารุ่นก่อนๆ ช่วยหนุนรายได้และกำไรของ 3Q61 เติบโตทั้ง QoQ และ YoY 
  ความเห็น ถึงแม้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี61 ราว 600 ลบ. -3.82% อย่างไรก็ตาม เราชื่นชอบ SYNEX เนื่องจากเป็น Distributor รายใหญ่สุดของประเทศ ส่วนแบ่งตลาดกว่า 30% ประกอบกับ PER ที่ 14.6x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม ที่ 18.9x ขณะที่อัตราปันผลที่สูงถึง 4% รวมถึงโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจ อย่าง กลุ่มลูกค้า e-Sports และ Cloud service ดังนั้น แนะนำ“ซื้อเก็งกำไร”

• ORI (ราคาปิด 18.40 ซื้อ Bloomberg Consensus 23.77) จัดตั้งบริษัท ออริจิ้น ฟู้ด จำกัด เพื่อลงทุนในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสนับสนุนรายได้ประจำในอนาคต เบื้องต้นจะเข้าถือหุ้น 99% และในช่วงไตรมาส 4/61 จะขายหุ้น 49% ให้กับพันธมิตรที่เป็นกูรูด้านธุรกิจอาหาร (กูรูฟู้ด) เหลือถือหุ้น 51% ปี 62 บริษัทวางแผนใช้งบลงทุน 100 ลบ.เพื่อซื้อหุ้นในธุรกิจอาหาร 2-3 แบรนด์ คาดน่าจะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 2-3 ปีต่อแบรนด์
• ความเห็น เป็นการเดินหน้าตามแผนการสร้างรายได้ประจำที่จะช่วยลดความผันผวนของรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ดี รายได้ธุรกิจอสังหาฯในปีนี้ยังมีแนวโน้มเติบโตสูงจากที่มีกำหนดเริ่มโอนคอนโดฯ xx โครงการในปีนี้ ซึ่งคาดจะเห็นผลการดำเนินงานเติบโตสูงในปีนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 เฉลี่ย 3,021 ลบ.เติบโต 50% ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานระยะยาวจากการมีโครงการที่หลากหลายทั้งแนวราบ คอนโด โครงการมิกซ์ยูสในกทม.และพื้นที่อีอีซี
• U ใช้งบราว 101.6 ลบ.ซื้อหุ้นสัดส่วน 50% ในบริษัท UBM + VH Hotels GmbH (UBM JV) ราคาซื้อขายรวมประมาณ 101.6 ล้านบาท เพื่อทำธุรกิจบริหารกิจการโรงแรม ในเยอรมนี(ที่มา : IQ)
• MAKRO ตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ในเมียนมา ทำธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง ภายใต้ชื่อ ARO Commercial Company Limited มีทุนจดทะเบียนราว 9.82 ล้านบาท (ที่มา : IQ)
• บอร์ด KYE (บมจ.กันยงอีเลคทริก) อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 10% ใช้เงิน 968 ลบ. ตั้งโต๊ะรับซื้อจากผถห.ราคา 440 บ./หุ้น เริ่ม 1-19 ต.ค.(ที่มา : IQ)