Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET มีความผันผวนสูงมาก โดยในช่วงเช้าปรับตัวลงตามภูมิภาค มีแรงขายเด่นใน TRUE ภายหลังอนุญาโตฯให้จ่ายค่าผิดสัญญา TOT กรณีบริการ ADSL ก่อนที่ช่วงบ่ายจะเกิด Technical rebound นำโดยแรงซื้อคืนเด่นใน CPALL และกลุ่ม Domestic อย่าง BEM, STEC, KTB และหุ้นขนาดกลางบางตัวมีแรงซื้อเด่นเช่น VGI, BEAUTY ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,693.9 จุด (+7.5 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.4 หมื่นลบ. (มี Biglot CPALL, BEM) ลดลงจากวันก่อนหน้าที่ 6.0 หมื่นลบ.
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องที่ 2,554 ล้านบาท พร้อมเปิดสถานะ Short SET50 index future ที่ 1,766 สัญญา
Investment theme
นโยบาย America First ของ Trump เริ่มส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง : หากอิงจากข้อมูล Bloomberg พบว่าประเทศในตลาดเกิดใหม่มีการก่อหนี้เพิ่มขึ้นสูงเป็น 63 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ จากระดับ 21 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อ 11 ปีก่อน โดยเฉพาะประเทศ ตุรกี, แอฟริกาใต้ และอาร์เจนติน่า ที่มีการกู้ยืมเป็นสกุลเงินต่างประเทศสูงเมื่อเทียบกับ GDP และเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Trump ได้จุดฉนวนหรือเปิดความเสี่ยงให้กับประเทศตุรกีด้วยการเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าเป็น 20% และ 50% ในอลูมิเนียมและเหล็ก ตามลำดับ ส่งผลให้ค่าเงิน Lira อ่อนค่าทำระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ สร้างความกังวลต่อประเทศอื่นๆ ใน EM โดยเฉพาะประเทศที่มีสถานะทางการเงิน (ดุลบัญชีเดินสะพัด, ดุลการคลัง ขาดดุล )เศรษฐกิจ (พึ่งพาการส่งออก, เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง) โดยเรามองว่าความกังวลปัจจัยต่างประเทศ ทั้งเรื่องสงครามการค้าและโอกาสการเกิดวิกฤตการเงินในประเทศ EM จะยังคงเป็นปัจจัยกดดันการลงทุนในเดือนกันยายน
Investment Theme: เราประเมินแนวรับ SET บริเวณ 1,680 (อาจเห็น Technical rebound) และประเมินแนวรับสำคัญที่ 1,650 จุด ซึ่งหากอิงกับ EPS18 ของ SET ที่ 107.8x (สมมติฐาน Bond yield 10 ปีที่ระดับ 2.74%) เป็นระดับ Earning yield Gap บริเวณ 3.79% เทียบเท่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5ปี โดยสถานกาณ์ปัจจุบันยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยต่างประเทศ
คงคำแนะนำ ชะลอการลงทุน เพื่อรอความชัดเจนในเรื่องการเพิ่มระดับวงเงิน 2.0 แสนล้านเหรียญระหว่างสหรัฐและจีน พร้อมถือเงินสด 40% และทยอยสะสมหุ้นกลุ่ม Domestic เมื่อ SET ทดสอบแนวรับ นำโดย CPALL , STEC, BEM
Bis issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – สหรัฐรายงานยอดขาดดุลการค้าเดือนก.ค.ที่ 5หมื่นล้านเหรียญสหรัฐสูงสุดในรอบ 5เดือน โดยขาดดุลการค้าจีนเพิ่ม 10% เป็น 3.68 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ / สหรัฐรายงาน PMI ภาคบริการเดือนส.ค.ต่ำกว่าคาดที่ 54.7 / Trump เตรียมพิจารณาเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่น
Stock pick : -
Trading idea – เก็งกำไร CPALL กรอบ 65.0-69.0 /สำหรับหุ้นตัวอื่นๆเราแนะนำรอซื้อสัปดาห์หน้าบริเวณแนวรับ
Technical View
จะห้กล้าง Double Top ต้องกลับมายืนเหนือ 1706: ดัชนีปรับตัวลงในช่วงเช้าจากแรงขายหุ้นกลุ่มสื่อสาร แต่จะมีแรงซื้อกลับจากหุ้นกลุ่มค้าปลีก ทำให้ดัชนีเกิดแรง Rebound จากแนว Neckline ของ Double Top บริเวณ 1675 เกิดเป็นแท่งเทียนในลักษณะ Hammer ระยะสั้นให้พิจารณาแนวต้านที่เส้น EMA200Day บริเวณ 1706 เป็นหลัก หากกลับมายืนได้ จึงจะเริ่มมองว่ามีโอกาสหักล้างรูปแบบการกลับตัวลงแบบ Double Top กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : จังหวะ Rebound ระหว่างวันเป็นโอกาสขายหุ้น ตามแนวต้าน 1700 และ 1706 2) ไม่มีหุ้น : รอดูแนวโน้มจนกว่าดัชนีจะกลับมายืนเหนือ 1706 หรือหากรับความเสี่ยงได้ แนะนำ Trading ในกรอบ 1685-1706
แนวรับ : 1675, 1685 แนวต้าน : 1700, 1706
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: -
ปัจจัยในประเทศ: คลื่น 850Mhz ของ DTAC จะหมดสัมปทาน
หุ้นเทคนิค:
SCB (B 142.00-143.50, Tp 148.00//150.00, Cut 141.00)
IVL (B 57.00, Tp 60.00, Cut 56.50)
ข่าวเด่น