สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -4.45 จุด กังวลการกีดกันการค้าลามสู่ญี่ปุ่น ซ้ำรอยจีน

  SET เคลื่อนไหวอิงแดนลบในกรอบ 1683-94 วอลุ่มน้อย 3.6 หมื่นลบ. ถูกกดดันจากปัจจัยตปท. โดยปธน.ทรัมป์เล็งเป้ากีดกันการค้าถัดไปที่ญี่ปุ่น ซ้ำรอยจีนที่ยังเป็นปัญหาคาราคาซังอยู่ ขณะที่ PTT เสี่ยงถูกร้องเรียนกรณี GPSC ซื้อ GLOW ต่างชาติขายสุทธิ 773 ลบ. 11 วันติด แต่พลิก Long S50 Futures 2,864 สัญญา ยุติ Short 3 วันติด

ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์-ซึมลง, ปธน.ทรัมป์เล็งเก็บภาษีจีนเพิ่มอีก, $ แข็ง
  หุ้นโลกเมื่อวันศุกร์ (7 ก.ย.) ปิดกระจัดกระจาย โดยหุ้นสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ปรับลงต่อ จากการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นบริษัทข้ามชาติ หลังปธน.ทรัมป์ประกาศพร้อมจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจีนอีกมูลค่า 2.67 แสนล้านดอลลาร์ฯ เพิ่มเติมจากเดิมที่ 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งจะเทียบเท่ากับมูลค่าสินค้าที่สหรัฐฯ นำเข้าจากทั้งหมดที่ 5.05 แสนล้านดอลลาร์ฯ ในปีที่แล้ว ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ใน ส.ค. แข็งแกร่งและมีสัญญาณค่าจ้างปรับสูงขึ้น หนุนตลาดคาดการณ์ FED จะขึ้นดบ.อีก 2 ครั้งในปีนี้ ส่งผลให้ 10Y US Bond Yield และเงินดอลลาร์ฯ ปรับตัวสูงขึ้น  มอง SET แกว่งไซด์เวย์-ซึมลง ตลาดขาดปัจจัยบวกใหม่ ขณะที่ปัจจัยตปท.มีความไม่แน่นอนสูงขึ้น แนะติดตามสถานการณ์กีดกันการค้าจากสหรัฐฯ, การประชุม BOE, ECB และธ.กลางตุรกีพร้อมกัน 13 ก.ย. และธ.กลางรัสเซีย 14 ก.ย. โดยเฉพาะ 2 ธนาคารกลางหลังจะดำเนินการอย่างไรในการกอบกู้ค่าเงินอ่อนระลอกใหม่ สำหรับไทยที่มีพื้นฐานศก.แข็งแกร่ง และรอลุ้นข่าวดีการเมืองในช่วงกลางเดือนนี้ จะสร้างความชัดเจนการเลือกตั้งปีหน้า เป็นผลดีต่อหุ้นไทยในระยะถัดไป แนวรับ 1685+/-, 1676 แนวต้าน 1695, 1700-1705

กลยุทธ์การลงทุน : ไม่แนะนำเทรดดิ้งสั้น, พอร์ตลงทุน รออ่อนตัวทยอยสะสม
  ตราบใดที่ SET ยังไม่ขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1700-1705 ได้ เรายังแนะนำให้ถือเงินสด รอประเมินจังหวะเข้าเทรดดิ้งสั้นรอบใหม่ แต่สำหรับพอร์ตลงทุน มองเป็นโอกาสดีในการแบ่งทยอยสะสมที่ SET 1660-65 และ 1650 ลงมา

• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Trading Pick COM7 – มอง Apple น่าจะใช้งานที่ Steve Jobs Theater ในวันที่ 12 ก.ย.นี้ เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ คาดจะหนุนบรรยากาศการลงทุนหุ้น COM7 เนื่องจากยอดขายกว่า 60% มาจาก iPhone, มองแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก จากช่วงไฮซีซั่น และการขยายช่องทางจำหน่ายต่างๆ, เป้าพื้นฐาน 20.5 บ. / FTSE Rebalance Asia ex Japan มีผลราคาปิด 21 ก.ย. FTSE All World - มีหุ้นไทยถูกคัดออก คือ BEC, FTSE Large Cap - มีหุ้นไทยถูกออก คือ MINT (ลดระดับเป็น Mid Cap), FTSE Mid Cap มีหุ้นเข้าคือ MINT และหุ้นถูกออก คือ BEC, FTSE Small Cap – มีหุ้นเข้า คือ MBK, BEC (ตกมาจาก Mid Cap) / หุ้นกำไรครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก มี Upside สูง – CK, CMAN, NYT, PCSGH, PLANB, PRM, SEAFCO, STEC, WHA / หุ้นเด่นในแต่ละอุตฯ ที่น่าทยอยสะสม คือ AUTO – PCSGH / BANK – BBL, KBANK, SCB / COMM – CPALL, BJC, COM7 / CONMAT – SCC / CONS – CK, STEC, SEAFCO / FIN – AEONTS, ASAP / FOOD – MINT / ICT – INTUCH, TRUE / MEDIA – PLANB / PETRO – IVL, CMAN / PROP – ANAN, LH, QH, ROJNA / TRANS – BTS, JWD, NYT / mai – SPA / DIVIDENDs – KKP, LH, NYT, TPIPP, TVO
• หุ้น Weekly GURU ซื้อ COM7 (เป้าสั้น 20.2 บ.), EA (42.5 บ.), TTCL (11.1 บ.) / ถือ STEC (23.6 บ.) / ถึงเป้าขายทำกำไร HANA (+3.9%) / ขายเปลี่ยนตัว EPG (+1.1%) / ขายตัดขาดทุน TRUE (-11.4%)
• หุ้นเด่น ก.ย. (Smart Tactics) BJC, CK, COM7, HANA, IRPC, MINT, PRM, TCAP
• หุ้นเด่น 2H18 Big Cap. - KBANK , BBL , CPALL , BJC , CK , IVL , SCC , LH , PSH , QH , TRUE , INTUCH / Mid-Small Cap. - BTS , COM7 , NYT , PLANB , ROJNA , STEC , SEAFCO , SPA

ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research