Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง โดยหุ้นใหญ่หลายตัวแกว่งตัวในกรอบนำโดย PTT, CPALL, AOT กลุ่มธนาคารอย่าง SCB, KBANK ในขณะที่หุ้นขนาดกลางอย่าง DDD, KCE ยังคงมีแรงซื้อเด่นอย่างต่อเนื่อง ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,691.5 จุด (+2.0 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 3.2 หมื่นล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าที่ 3.6 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องที่ 187 ล้านบาท และกลับมาเปิดสถานะ Short SET50 index future ที่ 6,215 สัญญา
Investment theme
ค่าเงินหลายสกุลในตลาดเกิดใหม่เผชิญกับแรงขายทำกำไรอย่างมาก : นอกเหนือจากปัจจัยสงครามการค้าระหว่างประเทศสหรัฐกับนานาประเทศที่ส่อแววรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ยังมีประเด็นการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่คาดขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีเป็น 2.25-2.50% เป็นปัจจัยกดดันการไหลออกของเงินทุน ส่งผลให้ค่าเงินในภูมิภาคตลาดเอเชียและตลาดเกิดใหม่ทยอยอ่อนค่าทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นำโดย Lira, Peso, Rupiah และล่าสุดค่าเงิน Rupee ของอินเดียทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 72.5 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นสกุลเงินที่อ่อนค่ามากที่สุดในตลาดเกิดใหม่ของเอเชีย เป็นผลจากอินเดียต้องนำเข้าน้ำมันที่แพงขึ้นตามการอ่อนค่าของ Rupee เป็นผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับประเทศดังกล่าวมีความเสี่ยงต่อรายได้ที่ลดลงจากการส่งออก ภายหลังเกิดสงครามการค้าขึ้น ฉะนั้นเราประเมินภาพรวมสถานการณ์ประเทศต่างๆ ใน EM ยังมีความเสี่ยงต่อการผิดชำระหนี้ในอนาคต
Investment Theme: เราประเมินแนวรับ SET บริเวณ 1,680 (อาจเห็น Technical rebound) และประเมินแนวรับสำคัญที่ 1,650 จุด ซึ่งหากอิงกับ EPS18 ของ SET ที่ 107.8x (สมมติฐาน Bond yield 10 ปีที่ระดับ 2.74%) เป็นระดับ Earning yield Gap บริเวณ 3.79% เทียบเท่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี โดยสถานกาณ์ปัจจุบันยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยต่างประเทศ คงคำแนะนำ ชะลอการลงทุน เพื่อรอความชัดเจนในเรื่องการเพิ่มระดับวงเงิน 2.0 แสนล้านเหรียญระหว่างสหรัฐและจีน พร้อมถือเงินสด 40% และทยอยสะสมหุ้นกลุ่ม Domestic เมื่อ SET ทดสอบแนวรับ นำโดย CPALL , STEC, BEM
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – ประธานสนช.เสนอให้รัฐบาลกำหนดมาตรการควบคุมการหาเสียงเลือกตั้งผ่าน Social media ไว้ในร่างพ.ร.บ.ความมั่นคงไซเบอร์ / FETCO เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 109.45 (+1.24%)
Stock pick : -
Trading idea – เก็งกำไร CPALL กรอบ 65.0-69.0/ ทยอยสะสม TPIPP คาดกำไรทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง/ เก็งกำไร BEM ราคาเป้าหมาย 9.00 บาท จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินทำสถิติสูงสุดในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา / เลี่ยงการลงทุนในกลุ่ม Goods และ Commodity
Technical View
แกว่งในกรอบ 1685-1706 หากหลุด 1685 งดเทรดในระยะสั้น: ดัชนียังคงพยายามหยุดลงและแกว่งตัวออกข้างในบริเวณแนวรับ Neckline 1675 ขณะนี้มองกรอบการแกว่ง 1685-1706 ระยะสั้นมองว่าหากดัชนีกลับมายืนเหนือเส้น EMA200Day ที่ 1706 ได้ แนวโน้มจะกลับมาดูดีขึ้น และมีโอกาสหักล้างรูปแบบการกลับตัวลงแบบ Double Top แต่หากหลุด 1675 Downside จะเปิดมากขึ้น ขณะนี้จึงแนะนำให้ Trading ในกรอบ 1685-1706
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : จังหวะ Rebound ระหว่างวันเป็นโอกาสขายหุ้น ตามแนวต้าน 1700 และ 1706 2) ไม่มีหุ้น : รอดูแนวโน้มจนกว่าดัชนีจะกลับมายืนเหนือ 1706 หรือหากรับความเสี่ยงได้ แนะนำ Trading ในกรอบ 1685-1706
แนวรับ : 1675, 1685 แนวต้าน : 1700, 1706
Keep an eye on…
ปัจจัยต่างประเทศ: 13 ก.ย.ประชุม ECB
ปัจจัยในประเทศ: คลื่น 850Mhz ของ DTAC จะหมดสัมปทาน
หุ้นเทคนิค:
DTAC (B 43.00-44.00, Tp 47.00//50.00, Cut 42.00)
QH (B 3.60, Tp 3.50, Cut 3.30)
ข่าวเด่น