ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้นเด่น (14/09/61)


 Market summary

  เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้นเด่นตาม เป็นผลจากความชัดเจนของการเลือกตั้งและข่าวที่ระบุถึงโอกาสการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงซื้อเด่นในกลุ่มค้าปลีกนำโดย CPALL, BJC และกลุ่มการเงินอย่าง MTC, SAWAD  กลุ่มปตท. นำโดย PTTEP, PTTGC, PTT ส่งผลให้ ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,717.9 จุด (+38.5 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 7.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ 5.9 หมื่นล้านบาท
  นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยอีกครั้งที่ 2,007 ล้านบาท (สถาบันซื้อสุทธิสูงกว่า 1.14 หมื่นล้านบาท) พร้อมคงสถานะ Long SET50 index future สูงกว่า 12,124 สัญญา

Investment theme
  จับตาการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน : เมื่อวานที่ผ่านมามีแรงซื้อคืนในหุ้นขนาดใหญ่หลายตัว นำโดยกลุ่ม Domestic play อย่างกลุ่มธนาคาร,   ค้าปลีก และก่อสร้าง เป็นผลจากการที่พ.ร.ป. การเลือกตั้งส.ส.และ ที่มา ส.ว. ถูกประกาศอย่างเป็นทางการในราชกิจจานุเบกษา ทำให้กรอบการเลือกตั้งเริ่มชัดเจนมากขึ้นที่จะอยู่ในช่วงเดือนก.พ.-พ.ค. ซึ่งเรามีมุมมองเป็นกลางกับประเด็นดังกล่าว  อย่างไรก็ตามประเด็นที่เรามองว่าสำคัญต่อ      การเคลื่อนย้ายของเงินทุนมากกว่านั้นคือ โอกาสการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ครั้งที่ 3 โดยล่าสุด Steven Mnuchin รมว.คลังสหรัฐได้ส่งจดหมายเชิญ นาย Liu He ผู้นำการค้าจีนและที่ปรึกษาเศรษฐกิจปธน. Xi เดินทางเจรจาการค้าที่ประเทศสหรัฐอีกครั้ง โดยเราประเมินว่าการเจรจาครั้งนี้มีความสำคัญมาก เนื่องจาก Trump เตรียมแผนร่างขึ้นภาษีรวมกว่า 4.6 แสนล้าน (2.0 แสนล้าน แล้วเสร็จ) ในขณะที่ประเทศจีนเตรียมนัด WTO เพื่อออกมาตรการคว่ำบาตร ฉะนั้นการเจรจาครั้งนี้ อาจเป็นครั้งสุดท้าย และหากไม่เป็นผลเราประเมินว่าทั้ง 2 ประเทศอาจเริ่มระดับความรุนแรงสงครามการค้า ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันมาก อย่างไรก็ตามหากเจรจาสำเร็จเรามองว่า SET มีโอกาสกลับไปยืนเหนือระดับ 1,730 จุดอีกครั้ง
  Investment Theme: วันนี้คาด SET มี Sentiment บวกอ่อนๆต่อเนื่องจากเมื่อวาน โดยนอกเหนือจาก 2 ปัจจัยที่กล่าวมาด้านบน ล่าสุด Dollar Index กลับมาอ่อนค่าอีกครั้งภายหลังสหรัฐรายงานตัวเลขเงินเห้อ Core CPI ต่ำกว่าคาดที่ 2.2% YoY (คาด 2.4%) โดยเราประเมิน SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,705-1,730 จุด คงคำแนะนำลงทุนหุ้นกลุ่ม Domestic นำโดย CPALL, STEC, BEM, SCB  และหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานดีแต่ราคายังไม่ขึ้น (มี Upside) นำโดย GOLD, PRM

Big issue 
  เมื่อคืนที่ผ่านมา –  ม.หอการค้าปรับเป้า GDP ประเทศไทยปีนี้ขึ้นเป็น 4.6% จากเดิมที่ 4.4%  / ธนาคารกลางตุรกีปรับขึ้นดอกเบี้ย 625Bps เป็น 24% / ECB คงดอกเบี้ย -0.4% พร้อมปรับลดวงเงิน QE เหลือ 1.5 หมื่นล้านยูโร/เดือน 

Stock pick : -
  Trading idea – ทยอยสะสม GOLD มี Upside 31% คาดผลประกอบการช่วงที่เหลือของปี และ Presale เด่น /  เก็งกำไร CPALL กรอบ 65.0 – 69.0 / เก็งกำไร BEM ราคาเป้าหมาย 9.0 บาท จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินทำสถิติสูงสุดในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา / เก็งกำไร CKP กรอบ 4.30-4.60 / เลี่ยงการลงทุน DTAC

Technical View


  หากผ่านแนวต้าน 1730 ได้มีโอกาสสิ้นสุดขาลงในระยะยาว:  ดัชนีเปิดโดดและปรับตัวขึ้นแรง แม้จะติดแนวต้าน 1706 แต่ในช่วงบ่ายยังมีแรงซื้อต่อเนื่อง ทำให้สามารถผ่านแนวต้าน 1706 ได้อย่างง่ายดาย ขณะนี้ต้องพิจารณาแนวต้าน 1730 เป็นหลัก ซึ่งถือเป็นแนวต้านโซน High เดิม และเป็นแนวต้านของเส้น Downtrend ระยะยาว หากดัชนีสามารถผ่านไปได้ ระยะกลางถึงยาวมีโอกาสสิ้นสุดแนวโน้มขาลง ยังมองว่าหากดัชนีอ่อนตัวระหว่างวัน ยังเป็นโอกาสสะสมบริเวณแนวรับ 1713 และ 1706 แต่หากหลุด 1706 แนะนำ Lock Profit กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : พิจารณาแรงขายที่แนวต้าน 1730 หากยังมีแรงขายมากอาจทยอยทำกำไรบางส่วนเพื่อเล่นรอบ และหากดัชนีอ่อนตัวไม่หลุด 1706 มองว่ายังน่าสะสมตามแนวรับในจังหวะอ่อนตัว  2)  ไม่มีหุ้น : จังหวะอ่อนตัวระหว่างวันมองว่ายังน่าสะสมตามแนวรับ 1713, 1706 เพื่อคาดหวังการทดสอบ 
  แนวรับ : 1706, 1713 แนวต้าน : 1730, 1750

Keep an eye on...
  ปัจจัยต่างประเทศ:  การเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน ในสัปดาห์หน้า
  ปัจจัยในประเทศ:  จับตาศาลปกครองพิจารณา DTAC
  

หุ้นเทคนิค:
  TISCO (B 81.00-82.00, Tp 84.00//86.00, Cut 80.00)
  BDMS (B 26.00, Tp 28.00, Cut 25.00)


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 14 ก.ย. 2561 เวลา : 09:44:30

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 4:03 am