ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.ฟินันเซียไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน SET Index คาดว่าจะแกว่ง Sideways Down ต่อเนื่อง (18/09/61)


 กลยุทธ์วันนี้ >> Stay in Domestic Play

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways Down โดยถูกกดดันจากประเด็นสงครามการค้าหลังทรัมป์ยังมีความตั้งใจเก็บภาษีสินค้าจีน 2 แสนล้านเหรียญและอาจทำให้จีนปฏิเสธการเจรจารอบใหม่ อย่างไรก็ตามดัชนีปิดลบเพียงเล็กน้อยโดยยังมีปัจจัยในประเทศที่แข็งแกร่งคองพยุง แรงขายหลักมาจากสถาบันในประเทศที่พลิกมาขายสุทธิราว 1.15 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังซื้อต่อเนื่องอีกเล็กน้อย 305 ลบ. (และยัง Long ใน Index Futures อีก 2.4 พันสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET Index คาดว่าจะแกว่ง Sideways Down ต่อเนื่องหลังล่าสุดสหรัฐฯประกาศเก็บภาษีสินค้าจีน 2 แสนล้านเหรียญในอัตรา 10% ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 18 และจะเพิ่มเป็น 25% ในปีหน้า ซึ่งทำให้การเจรจาระหว่างกันเกิดขึ้นได้ยาก และมีโอกาสที่จีนจะตอบโต้อย่างทันควันด้วยวงเงิน 6 หมื่นล้านเหรียญอิงจากข่าวในช่วงก่อนหน้า ทำให้หุ้นที่เป็น Global Play และหุ้นส่งออกที่เกี่ยวข้องมีโอกาสถูกกดดัน อย่างไรก็ตามเรายังคาดว่าหุ้น Domestic Play จะยังเคลื่อนไหวได้แข็งแกร่งกว่าตลาดโดยเฉพาะกลุ่มตัวที่ได้อานิสงส์จากการเลือกตั้งซึ่งมีความชัดเจนมากขึ้น 
กลยุทธ์ : เน้นลงทุนในกลุ่ม Domestic Play//ส่วนที่ซื้อก่อนหน้าช่วงตลาดปรับฐานยังเน้นถือต่อ
หุ้นเด่นเดือนก.ย. : ASK, CHG, CK, CPALL, PRM  

Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$33ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$132ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลเข้า US$9ล้าน ขณะที่ไหลออกจากไต้หวัน US$80ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคหลังสหรัฐได้มีมาตรการทางภาษีเพิ่มเติมกับจีน และกังวลต่อท่าทีของจีนในระยะต่อไป

ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> TISCO <<

  • แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 98 บาท
  • รายงานสินเชื่อเดือน ส.ค. ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า แต่มีสัญญาณที่ดีขึ้นในกลุ่ม SME ที่ประกอบธุรกิจ Floor plan และสินเชื่อ retail ที่ไม่หดตัวลงแล้ว (HP flat แต่ Auto cash โตได้ดีขึ้น) เงินให้สินเชื่อ 8M18 ลดลง 5.35% YTD ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการ repayment ในกลุ่มสินเชื่อธุรกิจใน 1H18
  • คาดผลการดำเนินงานใน 2H18 จะดีกว่า 1H18 ที่มีค่าใช้จ่ายพิเศษมากกว่าคาด ส่วนกำไรทั้งปี 2018 คาดไว้ที่ 7.1 พันลบ. (+16.7% Y-Y) และคาดปันผล 5.5% ต่อปี (จ่ายปีละครั้ง) 

ประเด็นสำคัญวันนี้
  (0) ธนาคารกลางจีนกลับมาเพิ่มสภาพคล่องอีกครั้ง โดยสัปดาห์นี้ปล่อยกู้ผ่านโครงการ MLF (เงินกู้ระยะกลาง) อายุ 1 ปี ดอกเบี้ย 3.3% จำนวน 2.65 แสนล้านหยวนหรือ 3.86 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ จากสัปดาห์ก่อนที่เพิ่มปริมาณเงินผ่าน Reverse Repo (ซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน) 3.30 แสนล้านหยวน โดยมีเหตุผลเพื่อรองรับสภาพคล่องในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ ส่งผลให้เงินสกุลหยวนเริ่มอ่อนค่าลง และกดดันให้เงินสกุลภูมิภาคอ่อนค่าตามเช่นกัน ส่วนเงินบาทที่ Outperform เพราะยังคาดหวังผลประชุม กนง.พุธนี้ ซึ่งเป็นรอบที่จะมีการทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญด้วย
  (0) TMB รายงานสินเชื่อเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 1.6% M-M หรือราว 1 หมื่นลบ. การเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อในกลุ่มธุรกิจรายใหญ่ราว 3%M-M แต่ยังเป็นสินเชื่อระยะสั้นและสินเชื่อ Trade finance ขณะที่สินเชื่อรายย่อยเติบโตดีขึ้นทุกกลุ่ม ส่วนสินเชื่อ SME ทรงตัว M-M (เดือนก่อนหน้ามีการจ่ายชำระคืน) ทำให้สินเชื่อ 8M18 เพิ่มขึ้น 2.15% YTD และเราคงอัตราการเติบโตของสินเชื่อทั้งปีที่ 5% Y-Y ทั้งนี้ สินเชื่อที่เพิ่มส่วนใหญ่ยังหนักไปที่สินเชื่อรายใหญ่ทำให้ NIM ยังถูกกดดันใน 3Q18 ประกอบกับรายได้ค่าธรรมเนียมที่น่าจะแผ่วลงจากธุรกิจกองทุนที่ยังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผู้ถือหุ้น จึงคาดแนวโน้มกำไร 3Q18 จะชะลอลง 3.3% Q-Q และ 2.2%Y-Y มาอยู่ที่ราว 1.96 พันลบ. ส่วนกรณีธุรกรรม Trade finance ยังเป็นสินเชื่อปกติ ราคาปัจจุบันซื้อขายใกล้ Book Value เราจึงคงคำแนะนำ ซื้อ/ซื้อเก็งกำไร ราคาเหมาะสม 2.60 บาท
  (0) SAWAD เพิ่มทุน 57 ล้านหุ้น ขาย PP ให้ Cathay Financial Holding Co.,Ltd. ราคา 45 บาท/หุ้น รวมมูลค่า 2,565,000,000 บาท  เนื่องจากเพิ่มทุนใกล้เคียงราคาตลาดจึงไม่มี Price Dilution แต่มี EPS Dilution ปี 2019 ประมาณ 4.4% (ปีนี้ไม่มีผล) โดยภายหลังจาก PP แล้ว กลุ่ม Cathay จะถือหุ้นใน SAWAD 9.49% คงราคาเหมาะสมที่ 41.40 บาท แนะนำ switch เป็น MTC
  (+) TACC แนวโน้มกำไร 2H18 จะกลับมาฟื้นตัวดี  แม้จะหยุดการขายที่กัมพูชาแล้ว ซึ่งเรามองบวกเพราะไม่ต้องเผชิญผลขาดทุนจากการแข่งขันที่รุนแรง แต่ได้รายได้ในประเทศที่โตได้ดีมาชดเชยได้หมด ปัจจุบันบริษัทได้ลูกค้าใหม่ใน Character Business เพิ่ม 7 ราย รวมเป็น 27 ราย ล่าสุดลูกค้า Major ได้ออกชุด Bucket Set ราย Rilakkuma ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดย  TACC จะรับรู้เป็นค่า Fee จากธุรกิจนี้ และใน 4Q18 ที่เป็น High Season ของธุรกิจ จะกลับมาวางขายเครื่องดื่มช็อคโกแกลต Hershey’s อีกครั้ง ในรูปแบบโถกด Optional คาดกำไรสุทธิปี 2018 ลดลง 20.8% Y-Y และคาดกลับมาโตอีกครั้งปี 2019 ราว 22.8% Y-Y คงราคาเป้าหมาย 4.5 บาท แนะนำซื้อ (วันนี้มี Opp Day 13.00 น.)

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19 ก.ย.

ไทย: ประชุม กนง.

ญี่ปุ่น: ดุลการค้า (ส.ค.)

21 ก.ย.

- Flash PMI ภาคการผลิต (ก.ย.)

24 ก.ย.

-จีน: ตลาดหุ้นจีนและไต้หวันปิดทำการเนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์

25 ก.ย.

สหรัฐฯ: ประชุม FOMC ตลาดคาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 2.25%

(-) ตลาดสหรัฐปรับตัวลดลงจากความกังวลเรื่องการเก็บภาษี 10% บนสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐในวันที่ 24ก.ย. นี้ ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 25% ในปีหน้าตามแผนที่วางเอาไว้เพื่อช่วยให้บริษัทสหรัฐได้ปรับตัวหรือย้ายฐานการผลิตไปที่อื่นๆ
(-) ภาพรวมตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในยุโรปปรับตัวลง จากความกังวลเรื่องสงครามทางการค้า
(0) ตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมผสาน หลังปธ.เกาหลีใต้กำลังเดินทางไปเยือนเกาหลีเหนือเพื่อหาทางเจรจาข้อตกลงทางอาวุธ Nuclear ซึ่งช่วยหักล้างปัจจัยลบจากสงครามทางการค้าได้บางส่วน
(0) ค่าเงินบาททรงตัวได้ดีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 32.67 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. ลดลง 0.08 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 68.91 ดอลลาร์/บาร์เรล จากสงครามทางการค้าที่อาจกระทบต่อปริมาณความต้องการใช้ในอนาคตลง
(+) ค่าการกลั่นสิงคโปร์ปรับตัวขึ้น ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ 5.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
() ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 4.7 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1205.80 ดอลลาร์/ออนซ์


บันทึกโดย : วันที่ : 18 ก.ย. 2561 เวลา : 09:25:36

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 4:08 am