Market Summary 17/09/2018

หุ้นแนะนำพิเศษ

TMB (ราคาปิด 2.24 ซื้อเก็งกำไร  Bloomberg Consensus 2.53)

• สินเชื่อสุทธิในเดือนส.ค. เท่ากับ 6.3 แสนล้านบาทเร่งตัวขึ้นมาก โดยเติบโต 1.61% จากเดือนก่อนหน้าส่งผลให้ 8M61 สินเชื่อสุทธิเติบโต 2.15%YTD ดีขึ้นมากจาก 7M61 ที่เติบโตเพียง 0.53%YTD ในช่วง 1H61 มีกำไรสุทธิ 4,305 ลบ. -3% คาดกำไรครึ่งปีหลังจะมากกว่าครึ่งปีแรก Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 เฉลี่ย 8,952 ลบ. +3% 
• ปลายเดือนก.ค.61 มีดีลขายหุ้นของบลจ.ทหารไทย 65% ให้แก่บจ.พรูเด็นเชียล คอร์ปอเรชั่นเอเชีย (PCAL) บริษัทย่อยของอีสท์สปริงแห่งสิงคโปร์ผู้ได้รับรางวัล Asia Fund House จาก AsianInvestor คาดธนาคารจะได้ประโยชน์จากการบันทึกกำไรจากการขายเงินลงทุนและช่วยต่อยอดรายได้ค่าธรรมเนียมในการออกแบบผลิตภัณฑ์ด้านกองทุนเปิดขายให้กับลูกค้า
• การทำธุรกรรมและการลงทุนในประเทศตุรกีไม่น่าเป็นห่วง ธนาคารไม่มีการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลหรือตราสารหนี้ของบริษัทในตุรกี แต่มีธุรกรรมกับธนาคารใหญ่ใน 5 อันดับแรก เป็นธุรกรรม L/C discounting ซึ่งมีสัดส่วนน้อยกว่า 1% ของเงินให้สินเชื่อของธนาคาร โดยยังเป็นสินเชื่อจัดชั้นปกติและจะถึงกำหนดชำระในเดือนต.ค. 61

Market View  : 1,709 เป็นแนวรับสำคัญ
หุ้นแนะนำพิเศษ : TMB
หุ้นมีข่าว : DCC PSTC SAWAD
Technical Insight : CBG  AP
  SET Index วานนี้ปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน หลังสหรัฐฯประกาศว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีกในวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ภาพรวมดัชนีปรับตัวลดลงจากแรงขายฝั่งนักลงทุนสถาบันเป็นส่วนใหญ่ นำโดยกลุ่ม Big Cap. อาทิ PTT KBANK และ SCB ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,718.39 จุด (-3.82 จุด) Volume 5 หมื่นลบ. จาก Foreign Net +304.83 ลบ. TFEX Net +2,365 สัญญา ตราสารหนี้ +1,501 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย 
-ดาวโจนส์ปรับตัวลงหลัง ทรัมป์ ยังคงเดินหน้าประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 2 แสนล้านดอลลาร์ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเตรียมเจรจากัน
-น้ำมันขยับลงจากความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน  ขณะที่นักลงทุนจับตาสถานการณ์การคว่ำบาตรอิหร่าน
-"ทรัมป์" ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลล์ มีผล 24 ก.ย.นี้
-IMF เตือนเศรษฐกิจอังกฤษหดตัวหากแยกตัวจาก EU โดยไร้ข้อตกลง Brexit โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะขยยตัวเพียง 1.5% ในปีนี้และปีหน้า
+ราชพัสดุหนุน EEC ส่งพื้นที่ให้กับสำนักงาน EEC แล้ว 7 พันไร่ เพื่อใช้เป็นเขตพัฒนาอุตสาหกรรม 6.5 พันไร่ และเขตนวัตกรรมอีก 759 ไร่ 
+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 2.12 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 32.64 บาท/US
ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังไม่มีท่าทีคลี่คลาย กดดันตลาดหุ้นต่างประเทศ ตลาดหุ้นภูมิภาค และราคาน้ำมัน ปิดลดลง  โดยมีปัจจัยหนุนจากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศที่ยังมีแนวโน้มขยายตัว  ประเมินดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,709-1,731 จุด
กลยุทธ์การลงทุน  
KBANK, SCB, PTTEP, PTT, CPALL, PTTGC, SCC และ CPN  ติดรายชื่อหุ้นที่ติดทั้งสองกลุ่มดัชนี DJSI World และ DJSI Emerging Markets  
- HMPRO, CPALL, ROBINS, BJC  รัฐบาลคืน VAT เป็นเงินสดให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- หุ้นที่คาดว่า 2H61 จะเติบโตต่อเนื่อง ANAN ORI SC KCE CPF SVI
- หุ้น MAI ที่ผลประกอบการ 2H61 เติบโตต่อเนื่อง XO CHAYO TACC SSP
- กลยุทธ์การลงทุนเดือนก.ย. แนะนำกลุ่มธนาคาร กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง แนะนำ KKP CK AOT ERW CENTEL SSP

หุ้นมีข่าว  

• ประเด็นบวกกลุ่มยานยนต์ ผลการสำรวจของหอการค้าอเมริกันในจีนชี้ บริษัทรถยนต์สหรัฐฯ ที่ทำธุรกิจในจีน กำลังเจ็บปวดมากที่สุดจากการเก็บภาษีทั้งของจีนและสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน บริษัทอเมริกันจำนวนหนึ่งก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน (ที่มา ข่าวหุ้น)
• +DCC ชี้แนวโน้มผลงานไตรมาส 3/2561 โตเด่น ลุยปรับสาขารูปแบบใหม่แตะ 61 สาขา เล็งปรับราคาขายกระเบื้องเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5% หวังเพิ่มอัตรากำไรสุทธิสิ้นปีอยู่ที่ 15% ขณะที่มั่นใจการันตีรายได้ปีนี้ 10% ตามเป้า (ที่มา ทันหุ้น)   
• +PSTC ย้ำรายได้ปีนี้โต 200% ลุยหาพันธมิตรลงทุนโครงการท่อส่งน้ำมันสายอีสาน ระยะทาง 342 กิโลเมตร แย้มอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรรายใหญ่ในไทย 2-3 ราย คาดได้ข้อสรุปภายในปีนี้ พร้อมเตรียมเข้าประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง (ที่มาข่าวหุ้น)
• PORT มั่นใจรายได้ปีนี้โตตามเป้าไม่ต่ำ 15% ตามการนำเข้า-ส่งออกขยายตัว ,เจรจาดีลลงทุนใหม่ชัดเจนอย่างน้อย 1 ดีลปีนี้
• (+) SAWAD (ราคาปิด 46.25 Bloomberg Consensus 45.36) จะเพิ่มทุน 57 ล้านหุ้น ขายให้ Cathay Financial Holding จากไต้หวัน  แบบ Private Placement (PP) ที่ราคา 45 บ./หุ้น หนุนถือหุ้นเพิ่มเป็น 9.49% มีวัตถุประสงค์ เพื่อใช้ขยายธุรกิจสินเชื่อแบบมีหลักประกันและไม่มีหลักประกันของบริษัท เพื่อขยายการลงทุนในธุรกิจบริหารสินทรัพย์ และเพื่อลดภาระหนี้สินและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการของบริษัท นอกจากนี้บริษัทและ Cathay Financial Holding มีแผนที่จะร่วมกันขยายการดำเนินธุรกิจทางการเงินไปในต่างประเทศ (ที่มา : IQ)
• ความเห็น Cathay เป็นแบงก์ใหญ่จากไต้หวัน ฝ่ายวิจัยประเมินว่าการเข้ามาถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็นผลดีในการเป็นพันธมิตรช่วยสนับสนุนด้านเงินทุนที่ต่ำให้กับ SAWAD 1H61 มีกำไร 1,171 ลบ. -22% ขณะที่ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 เฉลี่ย 2,661 ลบ. ทรงตัวใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า
• + BGRIM จัดตั้งบ.ย่อยใหม่ชื่อ B.Grimm Power (Malaysia) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านริงกิตมาเลเซีย โดยบริษัทถือหุ้น 100%  รองรับพัฒนาโอกาสทางธุรกิจในมาเลเซีย