แกว่งตัวลุ้นผลประชุมเฟด และการทำ Window dressing ไตรมาส 3
คาดนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนทราบผลการประชุมเฟดคืนนี้ โดยตลาดมองว่ามีความเป็นไปได้ 100% ที่เฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้ และ 81% ในการประชุมเดือน ธ.ค. อย่างไรก็ตาม ประเด็นหลักที่นักลงทุนให้ความสนใจไม่ได้อยู่ที่ขึ้นหรือไม่ขึ้นดอกเบี้ยแต่อยู่ที่จุดยืนของเฟดต่อแผนการดำเนินนโยบายการเงินในช่วงที่เหลือของปีนี้ไปจนถึงปีหน้าว่าจะอยู่ในโทนแข็งกร้าว (hawkish) หรือ ผ่อนคลาย (dovish) ซึ่งจากสมมุติฐานเบื้องต้นเรามองว่าสัญญาณที่ตลาดจะได้รับมีโอกาสออกมาในเชิงผ่อนคลายมากกว่าแข็งกร้าว เมื่อพิจารณาจากตัวเลข retail sale, inflation, housing และ manufacturing ของสหรัฐฯที่อ่อนแอลงจากการประชุมครั้งก่อน (เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มตลาดเกิดใหม่)
สำหรับตลาดหุ้นไทย ดัชนียังมีแนวโน้มผันผวนในกรอบแคบผ่านแรงขายทำกำไรระยะสั้นและแรงซื้อที่ชะลอตัวเพื่อรอประเมินผลกระทบจากปัจจัยภายนอก รวมถึงการปิดงวด (window dressing) ไตรมาส 3/61 อย่างไรก็ตาม เรายังมองบรรยากาศการลงทุนรายตัวในเชิงบวก โดยเฉพาะกลุ่มที่ซื้อขายด้วย valuation ไม่แพง รวมถึงหุ้นที่ยังขึ้นน้อย (laggard) กว่าตลาด อาทิ SCC, AEONTS*, PSH, BANPU, EGCO, RATCH
กลุ่มพลังงาน จากการที่มีคนร่วมเข้าประมูลแหล่งก๊าซเอราวัณและบงกช เราเชื่อว่าผลการตัดสิน Chevron น่าจะได้เอราวัณและ PTTEP ได้บงกช เพราะเป็น operator เดิมของแหล่งดังกล่าวอยู่แล้ว ทำให้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับค่ารื้อถอน อีกทั้งเป็นการกระจายความเสี่ยงให้กับประเทศ เนื่องจากว่าจะได้มี supplier ของก๊าซหลายราย ซึ่งจะรู้ผลผู้ชนะ 25 ธ.ค.โดยเราคาดจะเพิ่มราคาเป้าหมายให้ PTTEP อีก 20-27 บาท (ขึ้นกับต้องแบ่ง 25% ให้รัฐหรือไม่)
อสังหาริมทรัพย์ เรายังไม่คาดว่าธปท.จะมีการกำหนดให้ลด LTV ลงจาก 90% เหลือ 70% แต่การเข้มงวดในการปล่อยกู้ของธนาคาร จะกระทบถึงผ้ประกอบการคอนโดมีเนียม โดยเฉพาะที่จับตลาดล่างที่อาจกู้ผ่านยากขึ้น อาทิ LPN
Investment Theme หุ้นใหญ่และกลุ่มหุ้นเลือกตั้ง BBL, SCB, STEC, CPALL, PTT, PTTEP/ หุ้นเล็กที่น่าสนใจ GUNKUL*, PSTC*, DTC*, EASTW*, AEONTS* / หุ้นกระแสเงินสดมั่นคง-ปันผล CPNREIT, CPN, PSH, AP, SPF*, EA, BCPG / กลุ่มการแพทย์ BDMS, BH, CHG, BCH /
ภาพรวมกลยุทธ์: เลือกหุ้นไม่แพง/ที่ยังขึ้นน้อย/พลังงานทดแทน ย่อลง 1750 และ 1740 จุด ก่อนเดินหน้าต่อขึ้นทดสอบ 1800 จุด // หุ้นแนะนำวันนี้ CPALL, TMB / เก็งกำไร GUNKUL* (เป้า 3.20 ตัดขาดทุน 2.98), DTC* (เป้า 14.00 ตัดขาดทุน 12.00)
แนวรับ 1734-1745 / แนวต้าน : 1762 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%
ประเด็นการลงทุน
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯเพิ่มสูงสุดในรอบ 18 ปี – สหรัฐฯเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ย. ดีดตัวสู่ระดับ 138.4 สูงสุดในรอบ 18 ปี สวนทางคาดการณ์นักวิเคราะห์ที่คาดลดลงสู่ระดับ 132
ธปท.ชี้สูตรคุมสัดส่วนหนี้ต่อรายได้คู่ LTV ปล่อยกู้อสังหา– ธปท.ชี้สูตร ตปท. คุม "สัดส่วนหนี้ต่อรายได้" คู่กับมาตรการ LTV ปล่อยกู้อสังหาฯ ห่วงสถานการณ์ตัวเลขหนี้เน่าอสังหาฯ พุ่งนำสินเชื่อประเภทอื่น เตรียมนัดแบงก์และผู้เกี่ยวข้องถกแก้ปัญหาเก็งกำไรบ้านหลังที่สอง พร้อมยืนยันนโยบายดอกเบี้ยต้องใช้คู่มาตรการ macro prudential สกัดจุดเปราะบาง
สทท.เร่งฟื้นตลาดทัวร์จีนชงปัดฝุ่นเว้นค่าทำ'วีซ่า' - "สทท." ปรับเป้าตัวเลข นักท่องเที่ยวต่างชาติปี 61 อยู่ที่ 37.19 ล้านคน ร่วงจาก 39 ล้านคน ฉุดรายได้ต่ำกว่า 2 ล้านล้านบาท เหตุยอดตลาดจีนหล่นวูบ คาดไตรมาส 4 มาไทย1.85 ล้านคน ลดลง25%
ประเด็นติดตาม: 26 ก.ย. – ประชุมเฟด / 27 ก.ย. - ตัวเลข GDP ไตรมาส 2/61 ของสหรัฐฯ / 28 ก.ย. – กกต.หารือพรรคการเมือง
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
27 ก.ย. – การประชุมนโยบายการเงินสหรัฐฯ,
ตัวเลข GDP ไตรมาส 2/61 ของสหรัฐฯ
28 ก.ย. – กกต.หารือพรรคการเมือง
ประเด็นลงทุนสำหรับหุ้นแนะนำ
- CPALL (84) : หุ้น top pick ในกลุ่มค้าปลีก ราคาที่ปรับลดลงสะท้อนการชะลอตัวของผลการดำเนินงานไปแล้ว ขณะที่ลงมาถึงโซนซื้อ 63-67 ทำให้มีโอกาสเข้าสู่จุดฟื้นตัว/ซื้อกลับโดยนักลงทุน อีกทั้งได้ประโยชน์จากสัญญาณการบริโภคที่ฟื้นตัว
- TMB* (2.60) : ผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังคาดจะเร่งตัวขึ้น และเริ่มเห็นสัญญาณบวกจากการปล่อยสินเชื่อเดือนล่าสุดที่กลับมาเติบโตขึ้น อีกทั้งราคาหุ้นที่ฟื้นในรอบนี้เพียง 5% ขณะที่หุ้นธนาคารใหญ่อื่นฟื้น 9-25% ทำให้เป็นหุ้น Laggard play
- GUNKUL* (3.20) : เก็งกำไรแบบตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 2.98 บาท
- DTC* (14) : เก็งกำไรแบบตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 12 บาท
- หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ: กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ / SSP*, AEONTS*, EGCO, GULF*, EA*, BCPG*, PYLON*, UNIQ*, EPG*, ASAP*, RJH* GUNKUL*, PSTC*(ควรตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5%)
ข่าวเด่น