ถ้อยแถลงเฟดผ่อนคลายน้อยลง แต่ไม่ได้น่ากลัวหรือผิดไปจากที่ตลาดคาดการณ์
ธนาคารกลางสหรัฐฯปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 2.25% ตามคาด พร้อมส่งสัญญาณขึ้นอีก 1 ครั้ง ในการประชุมเดือน ธ.ค. และอีก 3 ครั้งในปีหน้า โดยข้อมูลที่ตลาดได้รับจากผลการประชุมครั้งนี้เป็นในเชิงแข็งกร้าว (hawkish) มากขึ้นเมื่อมองจาก 1.จำนวนคณะกรรมการที่สนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้นจาก 8 คน เป็น 12 คน, 2.เฟดปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ของสหรัฐฯปีนี้ขึ้นเป็น 3.1% จากเดิมที่ 2.8% และปีหน้าขึ้นเป็น 2.5% จากเดิมที่ 2.4% อย่างไรก็ตามในมุมที่ถือได้ว่าเป็นบวก ประมาณการของเฟด แสดงถึงมุมมองต่อความเสี่ยงสงครามการค้าและปัญหาวิกฤติค่าเงินตลาดเกิดใหม่ มีผลกระทบจำกัด และตลาดไม่ได้ตกใจกับแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ย สะท้อนผ่านอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี สหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลง (เหลือ 3.05% จาก 3.10%) ไม่ได้เร่งปรับตัวขึ้นไปต่อ
สำหรับหุ้นไทย ในระยะสั้นอาจได้รับจิตวิทยาเชิงลบจากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ประกอบกับราคาน้ำมันที่ชะลอตัวลง รวมถึงวันนี้ (27 ก.ย.) เป็นวันชำระราคาของตราสารอนุพันธ์ที่สิ้นสุด ก.ย.61 ซึ่งความผันผวนมักจะโน้มเอียงไปในทางลบ ซึ่งอาจกดดันดัชนีย่อตัวสู่แนวรับ 1730-1740 จุด อย่างไรก็ตาม เรามองการพักฐานของดัชนีเป็นโอกาสซื้อในเชิงตั้งรับ ในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเลือกตั้งและการบริโภคในประเทศ อาทิ ค้าปลีก ธนาคาร รับเหมาฯ มากกว่าตลาด ทั้งนี้ผลจากวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น จะทำให้หุ้นในกลุ่มที่ซื้อขายไม่แพง Outperform ตลาดกว่าหุ้นที่ PER สูง ยังชอบ BANPU, AEONTS*, PSH, EGCO, RATCH
กลุ่มธนาคาร ปรับลดลงจากความกังวลธปท.คุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ จะกระทบกับยอดเติบโตสินเชื่อ โดยธนาคารที่มีพอร์ตสินเชื่อบ้านในสัดส่วนที่สูงที่สุดคือ SCB ทั้งนี้ระยะสั้นกลุ่มธนาคารอาจยังได้รับปัจจัยลบจากประเด็นขยายวงเงินการโอนออนไลน์จาก 50,000 บาท เป็น ไม่เกิน 699,000 บาท/ครั้ง อย่างไรก็ตามคาดผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังฟื้นตัว
อิเล็กทรอนิกส์ แม้ราคาทองแดงที่ปรับลดลง รวมถึงกำไรของกลุ่มเริ่มเห็นสัญญาณของการฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง แต่โดยปัญหาค่าเงินตลาดเกิดใหม่ มีแนวโน้มจะทำให้ค่าเงินของไทยแข็งค่ากว่าคู่ค้า ซึ่งจะกดดันอัตราการทำกำไรและลดทอนความน่าสนใจของหุ้นในกลุ่ม ในทางกลยุทธ์จึงมองกลุ่มนี้เพียงซื้อขายเก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุนเท่านั้น
Investment Theme หุ้นใหญ่และกลุ่มหุ้นเลือกตั้ง BBL, SCB, STEC, CPALL, PTT, PTTEP/ หุ้นเล็กที่น่าสนใจ GUNKUL*, PSTC*, DTC*, EASTW*, AEONTS* / หุ้นกระแสเงินสดมั่นคง-ปันผล CPNREIT, CPN, PSH, AP, SPF*, EA, BCPG / กลุ่มการแพทย์ BDMS, BH, CHG, BCH /
ภาพรวมกลยุทธ์: เลือกหุ้นไม่แพง/ที่ยังขึ้นน้อย/พลังงานทดแทน ย่อลง 1730-1745 จุด ก่อนเดินหน้าต่อขึ้นทดสอบ 1800 จุด // หุ้นแนะนำวันนี้ CPALL, TMB / เก็งกำไร GUNKUL* (เป้า 3.20 ตัดขาดทุน 2.98), DTC* (เป้า 14.00 ตัดขาดทุน 12.00)
แนวรับ 1734-1745 / แนวต้าน : 1762 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%
ประเด็นการลงทุน
ADB เพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจไทย - ADB คาดการขยายตัวของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียปีนี้ว่า มีแนวโน้มขยายตัว 6% และในปีหน้าคาดขยายตัว 5.8% ภายหลังจากที่ได้มีการใช้มาตรการจัดเก็บภาษีระหว่างกันโดยสหรัฐและจีนตั้งแต่ต้นปี โดยมีการคงคาดการณ์เศรษฐกิจจีนปีนี้ที่ 6.6%, ขณะที่ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจไทยโต 4.5% จากเดิมที่ 4% รับอานิสงส์ส่งออกโต ลงทุนภาครัฐและเอกชนขยายตัวดี
ศาลปกครองเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตฯ คดี TRUE - ศาลปกครองมีมติเพิกถอนคำชี้ขาดคณะอนุญาโตฯ ส่งผลให้ TRUE ไม่ต้องชำระเงินตามสัญญาร่วมการงานและร่วมลงทุนเพื่อขยายบริการโทรศัพท์ฯ ให้แก่ทีโอที มูลค่าก่า 1.2 พันลบ.
ประเด็นติดตาม: 27 ก.ย. - ตัวเลข GDP ไตรมาส 2/61 ของสหรัฐฯ / 28 ก.ย. – กกต.หารือพรรคการเมือง
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
27 ก.ย. – ตัวเลข GDP ไตรมาส 2/61 ของสหรัฐฯ
28 ก.ย. – กกต.หารือพรรคการเมือง
, ธปท.รายงานภาวะเศณษฐกิจไทย
ประเด็นลงทุนสำหรับหุ้นแนะนำ
- CPALL (84) : หุ้น top pick ในกลุ่มค้าปลีก ราคาที่ปรับลดลงสะท้อนการชะลอตัวของผลการดำเนินงานไปแล้ว ขณะที่ลงมาถึงโซนซื้อ 63-67 ทำให้มีโอกาสเข้าสู่จุดฟื้นตัว/ซื้อกลับโดยนักลงทุน อีกทั้งได้ประโยชน์จากสัญญาณการบริโภคที่ฟื้นตัว
- TMB* (2.60) : ผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังคาดจะเร่งตัวขึ้น และเริ่มเห็นสัญญาณบวกจากการปล่อยสินเชื่อเดือนล่าสุดที่กลับมาเติบโตขึ้น อีกทั้งราคาหุ้นที่ฟื้นในรอบนี้เพียง 5% ขณะที่หุ้นธนาคารใหญ่อื่นฟื้น 9-25% ทำให้เป็นหุ้น Laggard play
- GUNKUL* (3.20) : เก็งกำไรแบบตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 2.98 บาท
- DTC* (14) : เก็งกำไรแบบตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 12 บาท
- หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ: กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ / SSP*, AEONTS*, EGCO, GULF*, EA*, BCPG*, PYLON*, UNIQ*, EPG*, ASAP*, RJH* GUNKUL*, PSTC*(ควรตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5%)
ข่าวเด่น