คำแนะนำ
เน้นทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว แต่จำเป็นต้องตั้งจุดทำกำไรและจุดตัดขาดทุน โดยอาจรอซื้อในโซน 1,196-1,188 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,188 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,196 1,188 1,180
แนวต้าน 1,208 1,214 1,225
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ในระหว่างวันจะร่วงลงทดสอบ 1,195.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ที่เน้นย้ำถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ และกล่าวว่าเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเหนือระดับ “ปานกลาง” ที่วางเอาไว้ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐที่อยู่ในเชิงบวกอย่างมากและยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวหนุนสกุลเงินดอลลาร์ให้แข็งค่าและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐให้พุ่งขึ้นจนสร้างแรงกดดันให้กับทองคำ อย่างไรก็ดีราคาทองคำสามารถพยุงตัวรักษาระดับไว้ได้และฟื้นตัวขึ้นในระหว่างวันจากแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังตลาดหุ้นส่วนใหญ่ทั่วโลกรวมไปถึงดัชนีดาวโจนส์ ดัชนี S&P และ Nasdaq ร่วงลงจากการที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีปรับขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีที่ 3.232% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ปี 2016 สำหรับวันนี้แนะนำนักลงทุนติดตามการเปิดเผยตัวเลขในตลาดแรงงานสหรัฐ อาทิ อัตราการว่างงาน, รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงแรงงานและตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ซึ่งจะเป็นข้อมูลบ่งชี้เกี่ยวกับการเติบโตของการจ้างงานและความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานและอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของดอลลาร์รวมถึงทองคำ
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำอาจชะลอการปรับตัวขึ้นหลังมีราคาดีดตัวเข้าใกล้กรอบด้านบนมีแรงขายออกมาบริเวณโซน 1,208 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นยังต้องติดตามหากไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,208-1,214 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มีโอกาสที่จะเผชิญแรงขายลงสู่แนวรับในโซน 1,196-1,188 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
ยังเน้นเก็งกำไรตามกรอบแนวรับแนวต้าน โดยหากราคาไม่ผ่านแนวต้าน อาจพิจารณาเปิดสถานะขายบริเวณ 1,208-1,214 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ตัดขาดทุนหากยืนเหนือ 1,214 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้) ขณะที่การเข้าซื้อยังแนะนำให้รอพิจารณาบริเวณ 1,196-1,188 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น