Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET เผชิญกับแรงขายอย่างมีนัยยะ นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน PTT, PTTEP, BANPU กลุ่มโรงไฟฟ้า EA, GULF, BCPG กลุ่มการเงิน MTC, SAWAD อย่างไรก็ตามมีแรงซื้อเก็งกำไรในกลุ่มนิคมอย่าง WHA, AMATA ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,729.4 จุด (-12.5 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 6.4 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ 5.8 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 4,958 ล้านบาท (นักลงทุนสถาบันขายสุทธิเช่นกันที่ 3,436 ล้านบาท) และกลับมาเปิดสถานะ Short SET50 index future สุทธิ 15,286 สัญญา
Investment theme
ตลาดหุ้นขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ Bond yield พุ่ง แนะรอดูแนวรับ 1,710 : ตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging market) กลับมาเผชิญกับแรงขายอีกครั้ง (WTD นักลงทุนต่างชาติขายเด่นใน อินเดีย ไต้หวัน เกาหลีใต้ และประเทศไทย รวมสูงกว่า 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ภายหลัง FED คงแนวโน้ม Hawkish ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. และปี 2562 ประกอบกับการที่สหรัฐสามารถเจรจาสัญญาการค้าใหม่กับแคนาดาและแม็กซิโก ทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยกดดันให้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าในอัตราเร่ง อีกครั้ง ในขณะที่อัตราผลตอบแทนสหรัฐเริ่มปรับขึ้นสะท้อนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง เป็นผลให้ส่วนต่าง 10 yrs US-TH Spread เริ่มปรับตัวขึ้นเป็น 0.35bps สูงที่สุดในรอบ 4 เดือน และเป็นปัจจัยกดดันให้ EYG เพิ่มปรับลดลงเหลือ 3.37% ถือเป็นโซนต่ำสุดของปีนี้ อย่างไรก็ตามเราประเมินว่า Bond yield สหรัฐปรับขึ้นในครั้งนี้เพื่อสะท้อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ในเดือน ธ.ค. คาดประมาณขึ้นก่อนแกว่งตัวบริเวณ 3.25%+/-
Investment Theme: ยังคงแนะนำถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40% เรามองว่า SET ไม่ควรปรับหลุดแนวรับ 1,710 จุด เพื่อรักษาภาพ Sideway ในไตรมาสสี่ แนะทยอยสะสมกลุ่มค้าปลีกที่มีหลายปัจจัยสนับสนุน และคาดรัฐออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ (CPALL, BJC) กลุ่มก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง (TEAMG, STEC, SCCC)
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – World bank คาด GDP ประเทศไทยปีนี้ที่ 4.5% และชะลอตัวในปีหน้าเหลือ 3.9% / ธปท.ปรับเกณฑ์ LTV เป็น 80% สำหรับการกู้หลังที่ 2 หรือที่อยู่อาศัยมูลค่าเกิน 10 ล้านบาทขึ้นไป มีผล 1 ม.ค. 62
Stock pick : -
Trading idea – เก็งกำไร PSL คาดผลประกอบการฟื้นตัวเด่น 68%QoQ / หลีกเลี่ยงการลงทุนกลุ่มอสังหา / ชะลอแรงเก็งกำไร CKP พร้อมแนะนำทยอยขายบริเวณแนวต้าน 5.30 และ 5.50 บาท , ทยอยขาย WORK งบ Q3 ไม่สวย / หลีกเลี่ยงการลงทุนกลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL / ทยอยสะสม PTTGC โดยมองว่างบ Q3 จะไม่ได้แย่เหมือนที่ตลาดเคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้ คาดกำไรดำเนินงาน 1.2 หมื่นล้านบาท (+35%YoY, + 12%QoQ) หนุนจาก Aromatic
Technical View
แกว่ง 1720-1745 ระหว่างวันหากยืน 1730 อาจเก็งกำไรสั้นๆ: ดัชนีปรับตัวลงจากแรงขายหุ้นกลุ่ม Big Cap. ทำให้ระหว่างวันหลุดแนวรับ Neckline ที่ 1730 แต่ท้ายตลาดมีแรงซื้อกลับ ทำให้กลับมาปิดบริเวณโซนแนวรับ 1730 เนื่องจากแนวโน้มระยะยาวดัชนียังไม่หลุดแนวรับกรอบ Uptremd ขนาดใหญ่ จึงมองว่าวันนี้ดัชนีจะแกว่งพักตัวในกรอบ 1720-1745 ระหว่างวันหากดัชนีกลับมายืนเหนือ 1730 ได้ อาจใช้เป็นจังหวะเก็งกำไรสั้นๆในกรอบ 1730-1745 โดยเน้นขายทำกำไรภายในวัน
กลยุทธ์การลงทุน 1) หากไม่หลุด 1725 อาจยังเล่นเก็งกำไรระยะสั้นภายในวันได้ แต่เน้นขายทำกำไรภายในวันบริเวณแนวต้าน 1740 และ 1745 2) ไม่มีหุ้น : หากกลับไปยืนเหนือ 1730 สำหรับคนที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจเก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ 1730-1745
แนวรับ : 1720, 1725 แนวต้าน : 1740, 1745
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: Trump เตรียมเจรจาการค้าญี่ปุ่น / Worldbank ประชุม IMF เรื่องเศรษฐกิจโลก
ปัจจัยในประเทศ: -
หุ้นเทคนิค:
AMATA (B 24.30-24.50, Tp 25.50//26.50, Cut 24.00)
KTC (B 34.50, Tp 37.00, Cut 34.00)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
ข่าวเด่น