บทวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำวัน ‘บมจ.ไทยออยล์’ วันอังคารที่ 16 ต.ค.61
ราคาน้ำมันดิบเพิ่มเล็กน้อยจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และซาอุดิอาระเบีย
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและซาอุดิอาระเบีย ในกรณีการหายตัวไปของนายจามาล คาช็อกกี ผู้สื่อข่าวชาวซาอุดิอาระเบีย หลังเข้าไปติดต่อธุระที่สถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในนครอิสตันบูล เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้นำสหรัฐฯประกาศว่า สหรัฐฯ จะใช้มาตรการลงโทษสถานหนักหากผลการสืบสวนพบว่าซาอุดิอาระเบียมีส่วนเกี่ยวข้อง ในขณะที่ซาอุดิอาระเบียพร้อมตอบโต้สหรัฐฯ ด้วยมาตรการที่รุนแรงกว่า
+ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากอิหร่านยังคงปรับลดลงแตะระดับ 3.45 ล้านบาร์เรลต่อวันและยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยสหรัฐฯ มีความต้องการที่จะปรับลดปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากอิหร่านให้หมดไป ขณะที่ประเทศคู่ค้านอกเหนือจากประเทศหลัก เช่น จีน อินเดีย และตะวันออกกลางได้ทำการปรับลดปริมาณการนำเข้าจากอิหร่านอย่างต่อเนื่อง
- ความต้องการน้ำมันที่ลดลงได้กดดันราคาน้ำมันไม่ให้ปรับขึ้นมากนัก โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานพลังงานสากล (IEA) รายงานว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกมีแนวโน้มลดลง อันเนื่องมาจากผลกระทบของความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับรายงานจากกลุ่มประเทศส่งออกน้ำมัน (OPEC) ที่ได้ลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในปีนี้และปีหน้าลง
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์ที่เริ่มเบาบางก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว ประกอบกับอุปทานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากโรงกลั่นในญี่ปุ่นที่จะกลับมาดำเนินการใหม่อีกครั้งในเร็วๆ นี้
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ อย่างไรก็ดี อุปทานที่ปรับลดลง เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงในญีปุ่น อินเดีย และไต้หวันยังคงสนับสนุนตลาดในขณะนี้
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 69-74 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 78-83 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
-ภาวะตลาดน้ำมันดิบยังคงตึงตัวต่อเนื่อง หลังปริมาณการผลิตและการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดในช่วงสัปดาห์แรกของเดือน ต.ค. ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งนับเป็นการปรับลดลงค่อนข้างมากจากเดือน เม.ย. ที่ราว 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
-ความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มเจริญเติบโตช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นค่อนข้างมากมีแนวโน้มส่งผลกดดันต่อความต้องการใช้น้ำมัน โดยล่าสุด IMF ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้าลงมาอยู่ที่ร้อยละ 3.7
-ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกัน เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันดิบปรับตัวลดลงในช่วงการปิดซ่อมบำรุงประจำฤดูกาลของโรงกลั่นน้ำมันดิบในสหรัฐฯ
ข่าวเด่น