บทวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำวัน โดย‘บมจ.ไทยออยล์’ประจำวันอังคารที่30 ต.ค.61
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังรัสเซียส่งสัญญาณไม่ปรับลดกำลังการผลิต
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงหลังรัสเซียส่งสัญญาณไม่ปรับลดกำลังการผลิต โดยนาย Alexander Novak รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของรัสเซีย กล่าวว่ารัสเซียไม่จำเป็นที่จะปรับลดหรือคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบ เนื่องจากสถานการณ์น้ำมันดิบในปัจจุบันไม่ได้ล้นตลาดอีกต่อไป
- อิหร่านเตรียมตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ โดยเริ่มทำการซื้อขายน้ำมันดิบด้วยค่าเงินอิหร่านให้บริษัทเอกชนเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ อินเดีย จีน และตุรกี ซึ่งเป็นลูกค้าน้ำมันรายใหญ่ของอิหร่าน ต่างก็ปฏิเสธข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ในการยุติการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน โดยระบุว่าปริมาณน้ำมันในตลาดโลกมีไม่เพียงพอที่จะชดเชยน้ำมันจากอิหร่าน
- ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่เติบโตช้าลงจากผลกระทบสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
+ อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้รับแรงหนุน หลังกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบโอเปกคาดว่าจะทำการปรับลดกำลังการผลิต เนื่องจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาด หลังจีนประกาศโควตาการส่งออกน้ำมันเบนซินเพิ่มเติมของปี 2561
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากอุปทานที่มากขึ้น หลังจีนประกาศโควตาการส่งออกน้ำมันดีเซลเพิ่มเติมราว 590,000 ตัน
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
-รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานซาอุดิอาระเบียประกาศว่า ซาอุดิอาระเบียจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 11 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากกำลังการผลิตเดิมที่ระดับ 10.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อชดเชยอุปทานที่หายไปจากประเทศอิหร่านและเวเนซูเอลล่า และพร้อมที่จะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 1-2 ล้านบาร์เรล หากอุปทานไม่เพียงพอต่ออุปสงค์ของโลก
-การเติบโตของความต้องการน้ำมันดิบโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังได้รับแรงกดดันจากอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจากผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงปัญหาทางเศรษฐกิจในแถบยูโรโซนและตลาดเกิดใหม่
-ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากประเทศอิหร่านคาดจะปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังประเทศต่างๆ ปรับลดปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านก่อนวันกำหนดการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ในวันที่ 4 พ.ย. 61
ข่าวเด่น