ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ไทยออยล์วิเคราะห์ "ราคาน้ำมันดิบถูกกดดันจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง"


บทวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำวัน โดย‘บมจ.ไทยออยล์’ประจำวันจันทร์ที่5พ.ย.61

 
ราคาน้ำมันดิบถูกกดดันจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วัน จากความกังวลว่าอุปทานอาจล้นตลาด หลังสหรัฐฯ ประกาศผ่อนผันให้ประเทศจีน อินเดีย เกาหลีใต้ ตุรกี อิตาลี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ญี่ปุ่นและไต้หวัน นำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านได้ในช่วง 180 วันแรกหลังการคว่ำบาตรในวันที่ 4 พ.ย. 61 ซึ่งทั้ง 8 ประเทศนี้โดยเฉพาะจีนและอินเดียเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ของอิหร่าน

- ปริมาณการผลิตจากกลุ่มโอเปกในเดือน ต.ค. 61 ที่ผ่านปรับเพิ่มขึ้นกว่า 390,000 บาร์เรลต่อวันจากเดือน ก.ย. 61 มาอยู่ที่ระดับ 33.31 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งนับเป็นระดับสูงสุดในรอบสองปีโดยปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นกว่า 200,000 บาร์เรลต่อวันจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ขณะที่ลิเบียและซาอุดิอาระเบียปรับเพิ่มกำลังการผลิตรวมกันราว 270,000 บาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม ปริมาณการผลิตจากประเทศอิหร่านยังคงปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนล่าสุดได้ปรับลดลงกว่า 100,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับ 3.35 ล้านบาร์เรลต่อวัน

- รัสเซียปรับเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นต่อเนื่องมาแตะระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี ที่ราว 11.41 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังกลุ่มผู้ผลิตทั้งในและนอกโอเปกตกลงที่จะปรับเพิ่มกำลังการผลิตในเดือน มิ.ย. 61 เพื่อให้ความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตลดลงไปสู่ระดับ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยระดับปัจจุบันปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 460,000 บาร์เรลต่อวัน จากระดับที่ตกลงไว้ว่าจะปรับลดกำลังการผลิต
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ  หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ปรับเพิ่มขึ้นมาแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์  อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับที่ดี

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ  โดยได้รับแรงกดดันจากอุปทานที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังรัฐบาลจีนประกาศเพิ่มโควต้าการส่งออก อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากภาคตะวันตกในช่วงฤดูหนาว

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

-ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 61-66 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

-ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 71-76 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

-ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน หลังความต้องการใช้น้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับต่ำในช่วงการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่น รวมถึง ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตามปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นมาแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี

-อุปทานน้ำมันดิบจากอิหร่านมีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังหลายประเทศลดปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านก่อนที่สหรัฐฯ จะประกาศคว่ำบาตรอิหร่านซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. เป็นต้นไป

-จับตาการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ว่าจะสามารถหาข้อสรุปได้หรือไม่ หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และประธานาธิบดีจีน เตรียมหารือร่วมกันนอกรอบในการประชุดสุดยอดผู้นำโลก G20 ที่ประเทศอาร์เจนตินา ในปลายเดือน พ.ย. นี้
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 05 พ.ย. 2561 เวลา : 08:52:37

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:11 am