ตลาดหุ้นสหรัฐปิดเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.61) ดัชนีพุ่งทะยาน ดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 26,180.30 จุด บวก 545.29 จุด หรือเพิ่มขึ้น 2.13%,ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ระดับ 7,570.75 จุด บวก 194.79 จุด หรือเพิ่มขึ้น 2.64% และดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 2,813.89 จุด บวก 58.44 จุด หรือเพิ่มขึ้น 2.12%
ปัจจัยที่ส่งผลให้ดาวโจนส์และตลาดหุ้นอื่นของสหรัฐพุ่งแรง เนื่องจากนักลงทุนรับข่าวชัยชนะในการเลือกตั้งกลางเทอมของพรรคเดโมแครตที่ทำให้ได้คะแนนเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี เหนือพรรครีพับลิกันของสหรัฐที่มีประธานาธิบดี โดนัลท์ ทรัมป์ ของสหรัฐเป็นผู้นำ ซึ่งจะส่งผลต่อการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจของฝ่ายบริหารที่มีประสิทธิภาพและมีดุลยภาพมากขึ้น ประการสำคัญทำให้การดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาลกลางสหรัฐเกิดความรอบคอบรัดกุมมากขึ้น เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะยาว โดยเฉพาะเรื่องนโยบายด้านการค้าระหว่างประเทศและความรุนแรงของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนน่าจะผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งกรณีนี้นักวิเคราะห์ชื่อดังของโลกล้วนออกมาวิเคราะห์ตรงกันว่า ชัยชนะของพรรคเดโมแครตในสภาล่างจะทำให้พรรครีพับลิกันจำเป็นต้องทบทวนนโยบายในหลายๆ ด้าน เพราะความพ่ายแพ้ต่อพรรคเดโมแครตในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความเสื่อมคลายความนิยมที่ประชาชนชาวอเมริกันมีต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ดำเนินนโยบายต่างๆในแนวทางที่แข็งกร้าวต่อประเทศคู่ค้าและพันธมิตรดั้งเดิมของสหรัฐนับตั้งแต่เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
"ชัยชนะของพรรคเดโมแครตในครั้งนี้ ทำให้ความตึงเครียดของชาวโลกผ่อนคลายลงมาก โดยเฉพาะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนน่าจะดำเนินไปในทิศทางที่ลดระดับลงและดีขึ้น"นักวิเคราาะห์รายหนึ่งกล่าว
ข่าวเด่น