- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงต่อ โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 11 ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลดลงติดต่อกันมากที่สุดในประวัติการณ์ หลังทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวีตข้อความว่า “ซาอุดิอาระเบียและผู้ผลิตกลุ่มโอเปกจะไม่ปรับลดกำลังการผลิตลง ดังนั้นราคาน้ำมันดิบควรปรับตัวลดลง หากดูที่ปัจจัยของอุปทาน”
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงต้นของการซื้อขาย เนื่องจากซาอุดิอาระเบีย เผยว่า ผู้ผลิตกลุ่มโอเปกมีความเห็นตรงกันว่า ควรมีการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในปีหน้าลง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับในเดือน ต.ค. เพื่อรักษาสมดุลของตลาดน้ำมันดิบ หลังมองว่าปริมาณน้ำมันดิบอิหร่านที่ปรับลดลงจากผลของการคว่ำบาตรนั้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากสหรัฐฯ ประกาศผ่อนผันให้ 8 ประเทศผู้นำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านสามารถนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านได้ในช่วง 180 วันแรกหลังการคว่ำบาตร
+ ซาอุดีอาระเบียระบุว่าจะลดปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบในเดือน ธ.ค. ลง 500,000 บาร์เรลต่อวันจากเดือนก่อนหน้า หรือคิดเป็นร้อยละ 0.5 ของอุปทานน้ำมันดิบดิบโลก
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ประกอบกับความต้องการใช้ที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงในช่วงของฤดูหนาว
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ยังคงทรงตัว อย่างไรก็ตาม อุปทานมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังช่วงของการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นเริ่มเสร็จสิ้นลง
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
-อุปทานน้ำมันดิบโลกมีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ ฯ ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 11.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน และมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
-ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่อาจล้นตลาด หลังสหรัฐฯ ประกาศผ่อนผันให้ 8 ประเทศผู้นำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่าน ประกอบด้วย จีน อินเดีย กรีซ อิตาลี ไต้หวัน ญี่ปุ่น ตุรกี และเกาหลีใต้ สามารถนำเข้าน้ำมันดิบอิหร่านได้ในช่วง 180 วันแรกหลังการคว่ำบาตร
-จับตาการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ว่าจะสามารถหาข้อสรุปได้หรือไม่ หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และประธานาธิบดีจีน เตรียมหารือร่วมกันนอกรอบในการประชุดสุดยอดผู้นำโลก G20 ที่ประเทศอาร์เจนตินา ในปลายเดือน พ.ย. นี้
ข่าวเด่น