ตลาดหุ้นสหรัฐปิดตลาดเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.2561) ดิ่งลงอย่างหนักต่อเนื่อง โดยดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาด ร่วงลง 551.80 จุด ที่ระดับ 24,465.64 จุด หรือลดลง 2.21% ขณะที่ ดัชนีแนสแด็ก ปิด ลบ 119.65 จุด ที่ระดับ 6,908.82 จุด หรือลดลง 1.70% และดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิด ลบ 48.84 จุดที่ระดับ 2,641.89 จุด หรือลดลง 1.82%
สาเหตุที่ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงหนักเมื่อคืนนี้และนับเป็นวันที่สองตั้งแต่เปิดตลาดต้นสัปดาห์ โดยสองวันดิ่งลงแล้วเกือบ 1,000 จุด เนื่องจากนักลงทุนกังวลสถานการณ์ในอิตาลี และการออกจากสหภาพยุโรป หรือ Brexit ของอังกฤกษ ขณะที่แรงเทขายต่อเนื่องในกลุ่มหุุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของสหรัฐยังคงมีอยู่ รวมถึงมีแรงขายผสมในกลุ่มหุ้นพลังงานและกลุ่มหุ้นค้าปลีกเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากนักลงทุนกังวลเรื่องยอดขายของผู้ประกอบการค้าปลีกที่อาจตกลงในปีนี้จากกำลังซื้อที่หดตัวลง โดยเฉพาะหากเทียบกับปีก่อนหน้าที่มีฐานที่สูงด้วย
ทั้งนี้ สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า จากการสำรวจความเห็นของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ ส่วนใหญ่ล้วนมองไปในทิศทางเดียวกันว่า ดัชนีดาวโจนส์อาจปรับลดลงอีก 2,000 จุด ก่อนที่แรงขายจะสิ้นสุด เนื่องจากปัจจัยลบที่สำคัญหลายอย่างประกอบกับ ทั้งเรื่องสงครามการค้า ที่ขณะนี้ผู้บริหารธุรกิจในสหรัฐกว่า 70% มองว่ากำลังส่งผลกระทบเชิงลบต่อการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งประเด็นอังกฤกษออกจากสหภาพยุโรป,สถานการณ์ในอิตาลี และการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)
ข่าวเด่น