บมจ.ไทยออยล์วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำวันโดยคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่อเนื่อง หลังโอเปกไร้ข้อสรุปเรื่องการปรับลดกำลังการผลิต
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังได้รับแรงกดดันจากการขายทำกำไรของนักลงทุน เนื่องจากผิดหวังกับการประชุมของกลุ่มโอเปกและรัสเซีย ในวันที่ 6 ธ.ค. 61 ที่ผ่านมา ที่ไร้ข้อสรุปที่ชัดเจนเรื่องการปรับลดกำลังการผลิต ทั้งนี้ แม้ว่ากลุ่มโอเปกต่างเห็นพ้องกันที่จะปรับลดกำลังการผลิต แต่ยังคงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้จนกว่าจะมีการหารือกับรัสเซีย โดยรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของรัสเซียจะเดินทางมาประชุมกับกลุ่มโอเปกในวันนี้เพื่อหาข้อสรุป หลังเมื่อวานได้มีการหารือกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
- ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงต่อเนื่อง หลังผู้บริหารสูงสุดด้านการเงิน (CFO) ของบริษัทHuawei ถูกจับกุมที่เมืองแวนคูเวอร์ และจะถูกส่งไปยังสหรัฐฯ จากข้อกล่าวหาว่าละเมิดมาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐฯ มีต่ออิหร่าน ส่งผลให้ตลาดกังวลว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน อาจทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้บางส่วนในการประชุม G20
+/- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง สหรัฐฯ ปรับลดลงกว่า 7.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ถึง 8 เท่า อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ได้กลับมาเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบและน้ำมันสําเร็จรูปสุทธิครั้งแรกในรอบ 45 ปี หลังปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบประวัติการณ์ที่ 3.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในภูมิภาคที่ยังอยู่ในระดับดี อย่างไรก็ตาม อุปทานน้ำมันเบนซินในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณการส่งออกญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 139.6 จากสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์
ข่าวเด่น