ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยทำจุดสูงสุดใหม่รอบ 5 เดือนบริเวณ 1,266 เหรียญโดยประมาณ ท่ามกลางความผันผวนอย่างรุนแรงจากดัชนีดาวโจนส์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และเฟดลดจำนวนการขึ้นดอกเบี้ยปีหน้าลงเหลือเพียง 2 ครั้ง ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 464.06 จุด ที่ระดับ 22,859.6 จุด สำหรับค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงจาก 96.8 จุด มาที่ 96.4 จุดโดยประมาณ ขณะที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อวานนี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ยังอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว ขณะที่ Philly Fed Manufacturing Index ออกมาแย่ลง ด้านกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ทำการขายออก 2.65 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 769.14 ตัน สำหรับวันนี้ต้องติดตามข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ ได้แก่ Core Durable Goods Orders และ Durable Goods Orders รวมทั้ง Core PCE Price Index คาดว่าจะดีขึ้น ขณะที่ Final GDP และ Revised UoM Consumer Sentiment คาดว่าจะอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว และ Personal Spending คาดว่าจะออกมาแย่ลง
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่รอบ 5 เดือน และสามารถทะลุจุดสูงสุดเดิมเมื่อเดือนที่แล้วบริเวณ 1,251 เหรียญได้ และภาพรวมมีปริมาณซื้อขายค่อนข้างหนาแน่น จึงทำให้ภาพรวมทิศทางทองคำเป็นขาขึ้น จึงแนะนำเก็งกำไรขาขึ้นโดยมีแนวรับ 1,250 เหรียญ และแนวต้าน 1,270 เหรียญ หาจังหวะเข้าซื้อทำกำไรเมื่อราคาอ่อนตัว สำหรับ GOF จะมีกรอบเคลื่อนไหวที่ 1,250 – 1,270 เหรียญ ขณะที่ Gold Comex ซีรีย์ G จะมีแนวรับ 1,254 เหรียญ และแนวต้าน 1,274 เหรียญ
โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ทำกำไรทิศทางขาขึ้น โดยมีกรอบการเคลื่อนไหววันนี้ที่ 1,250 – 1,270 เหรียญ
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ลงซื้อขึ้นขายเก็งกำไรในกรอบขาขึ้น
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ปิดสถานะ ลดความเสี่ยงจากความผันผวนขาลงของตลาด
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
ทยอยเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ภาพรวมทองคำดูเป็นทิศทางขาขึ้นหลัง Break จุดสูงสุดเดิม 1,251 เหรียญขึ้นมาได้
Gold Futures Z18 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,490 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,690 บาท
ข่าวเด่น