บมจ.ไทยออยล์ วิเคราะห์ราคาน้ำมันดิบลงต่อเนื่อง จากความกังวลปริมาณน้ำมันดิบล้นตลาด
(-) ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2560 จากความกังวลด้านภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด อีกทั้งนักลงทุนยังซื้อขายด้วยความระมัดระวังก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงเทศกาลวันหยุดในสัปดาห์หน้า
(-) ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลัง Baker Hughes รายงานตัวเลขแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯประจำสัปดาห์ ณ วันที่ 21 ธ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 แท่น แตะระดับ 883 แท่น ซึ่งถือเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย.ที่ ผ่านมา
(-) ปัจจุบันสหรัฐฯ ผลิตน้ำมันดิบราว 11.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งยังส่งผลให้สหรัฐฯเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลกแซงหน้ารัสเซียและซาอุดิอาระเบีย ซึ่งมีการผลิตน้ำมันราว 11.4 และ 11.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามลำดับ
(-) การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันดิบโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง จากแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันราคาน้ำมันดิบในระยะนี้
(+) นายโมฮัมหมัด บาร์คินโด เลขาธิการกลุ่มโอเปก กล่าวว่า โอเปกเตรียมที่จะเปิดเผยรายลเอียดของโควต้าในการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปก เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับตลาดว่ากลุ่มโอเปกจะมุ่งมั่นในการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อรักษาสมดุลของตลาดน้ำมันดิบ
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินล้นตลาด อย่างไรก็ตามตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากอินโดนิเซียที่ยังคงนำเข้าน้ำมันเบนซินอย่างต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคลดลง ขณะที่อุปทานยังคงอยู่ในระดับสูง โดยปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเวลาสามสัปดาห์ติดต่อกัน
โดยคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 43 - 48 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 52 - 57 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ข่าวเด่น