Gold Futures
ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวไม่มากนักอยู่ระหว่าง 1,287 – 1,285 USD และปิดวันติดลบลงเล็กน้อยจากวันก่อนหน้า โดยได้รับปัจจัยกดดันที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังเงินปอนด์ร่วงลงจากการปฏิเสธร่างข้อตกลงการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษของรัฐสภา อีกทั้งนายกฯเมย์ยังโดนยื่นไม่ไว้วางใจ ประกอบกับนักลงทุนคลายความกังวลการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกหลังจีนเตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจ ทางเทคนิคราคายังคงอยู่ในแนวโน้มของการขึ้นแต่ในระยะสั้นดูเหมือนมีการพักตัว sideway ออกข้าง ในกรอบ 1,285 – 1,295 USD และมีแนวต้านที่แข็งแกร่งบริเวณ 1,300 USD ระยะสั้นเรายังคงแนะนำให้นักลงทุนเน้นการเปิดสถานะ Long เป็นหลัก ในกรอบการเล่นดังกล่าว โดยปิดสถานะระยะสั้นตามแนวต้าน
Set 50 Futures
วานนี้ดัชนี SET50 โดนแรงเทขายต่อเนื่องปิดตลาดติดลบต่ออีกเล็กน้อยประมาณ 4 จุด โดยยังคงได้รับแรงเทขายหลักมาจากกองทุนภายในประเทศที่ขายออกมา 3 พันกว่าล้านบาท จากปัจจัยลบต่างประเทศทั้งการปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลสหรัฐฯและความไม่แน่นอนทางการเมืองในอังกฤษ วันนี้มองว่าถึงแม้ตลาดจะได้แรงหนุนจากท่าทีผ่อนคลายนโยบายการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดและการเตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน แต่ดูเหมือนกรอบการรีบาวน์จะค่อนข้างจำกัดจากปัจจัยลบอื่นๆที่ยังคงอยู่ แนะนำนักลงทุนรอพิจารณาที่ 1,050 จุด หากดัชนีไม่สามารถทรงตัวเหนือได้ สามารถเปิดสถานะ Follow Short ตามได้ โดยไปดูจุดปิดทำกำไรที่บริเวณ 1,040 จุด
Fundamental
- เงินปอนด์ร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯหลังรัฐสภาอังกฤษได้ลงมติด้วยคะแนนเสียง 432 ต่อ 202 เสียง ปฏิเสธร่างข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หลังจากสมาชิกรัฐสภาได้อภิปรายประเด็นดังกล่าวเป็นเวลา 5 วัน ทั้งนี้ นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ มีเวลา 3 วันในการนำเสนอแผน Brexit ฉบับใหม่ต่อรัฐสภา
- นายเจเรมี คอร์บิน ผู้นำพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษ ได้ยื่นญัตติไม่ไว้วางใจนายกฯเมย์ หลังจากที่ร่างข้อตกลง Brexit ไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา โดยการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะมีขึ้นในสภาสามัญชน ในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หากผลการอภิปรายครั้งนี้ปรากฎว่ารัฐบาลภายใต้การนำของนายกฯเมย์ไม่ได้รับความไว้วางใจ ก็อาจส่งผลให้ต้องมีการจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ในอังกฤษ
- จีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการปรับลดภาษีครั้งใหญ่, เพิ่มศักยภาพในการจัดหาสินเชื่อให้กับบริษัทขนาดเล็ก และเพิ่มการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยทางการจีนจะให้การสนับสนุนกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและภาคการผลิต รวมทั้งจะออกมาตรการที่เอื้อประโยชน์ต่อภาคธุรกิจในปี 2562 เพื่อสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลง 0.2% ในเดือนธ.ค.เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงของราคาพลังงาน และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI เพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนธ.ค.
- เมื่อวานนี้นายชัค กราสส์ลีย์ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯสังกัดพรรครีพับลิกันระบุว่า นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯไม่เห็นความคืบหน้าใดๆในประเด็นเชิงโครงสร้างในระหว่างการเจรจาของสหรัฐฯกับจีนในสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่มีแผนการหารือในระดับสูงขึ้นในช่วงสิ้นเดือนม.ค.
ข่าวเด่น