บมจ.ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำวันพฤหัสบดีที่ 17 ม.ค.62
+ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และเวสต์เท็กซัสปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 141.6 จุดขึ้นไปแตะระดับ 24,207.2 จุดซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน หลังตลาดตอบรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนที่มีแผนจะปรับลดภาษีและอัดฉีดการใช้จ่ายของภาครัฐมากขึ้น
+ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อตกลงลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกและพันธมิตร ที่ตั้งเป้าหมายลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบ 1.2 ล้านบาร์เรลตั้งแต่ ม.ค. 62 นี้ ล่าสุดกระทรวงพลังงานของรัสเซียได้เปิดเผยว่า การลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียจะถึงเป้าหมายภายในเดือน เม.ย. 62
+/- สถาบันสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) ได้เปิดเผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลง 2.7 ล้านบาร์เรลลงไปแตะระดับ 437 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.5 ล้านบาร์เรลขึ้นไปแตะระดับ 256 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ ก.พ. 60
- ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงกดดันจากการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 11.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับการส่งออกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของการส่งออกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ทั้งนี้ EIA คาดการณ์ว่า สหรัฐฯ จะเปลี่ยนสถานะเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบสุทธิภายในปี 2563 นี้
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศมาเลเซีย อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันเบนซินยังคงถูกกดดันจากอุปทานในภูมิภาคที่ล้นตลาด
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากอุปทานในภูมิภาคที่ยังคงล้นตลาดจากอัตราการผลิตของโรงกลั่นในภูมิภาคที่อยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดีเซลยังได้รับแรงหนุนจากการส่งออกน้ำมันดีเซลจากเอเชียไปยังยุโรป
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
O ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 49-54 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
O ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 57-62 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
-หลังการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และจีน เพื่อหาข้อสรุปของข้อพิพาทการค้าระหว่างสองประเทศ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-9 ม.ค. 62 ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ส่งสัญญาณดีต่อตลาด เนื่องจาก นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสองประเทศมหาอำนาจ
-ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียมีแนวโน้มปรับลดลง โดยคาดว่าปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากซาอุดิอาระเบียในเดือน ก.พ. 62 จะอยู่ที่ระดับ 7.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งลดลงจากปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบในเดือน ม.ค. 62 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 7.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
-ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดปรับเพิ่มขึ้น จากอัตราการกลั่นของโรงกลั่นในสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง สวนทางกับกำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ซึ่งกลับมาอยู่ที่ระดับสูงสุดในประวัติการณ์ หรือ 11.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ข่าวเด่น