บล.ทรีนีตี้คาดSET Indexแกว่งตัวในกรอบแคบท่ามกลางมูลค่าซื้อขายที่เบาบางต่อไป หลังนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในภาวะWait & See สะท้อนจากมูลค่าการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ที่อยู่เพียงแค่ 3.4 หมื่นล้านบาทเท่านั้น ในสภาวะเช่นนี้ มองว่านักลงทุนสามารถที่จะจำกัดการหมุน (Turnover) ของพอร์ตโฟลิโอได้ และรอจนกว่าดัชนีจะมีการปรับตัวไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ก่อนที่จะมีการTake action เกิดขึ้น
Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ยังคงแนะนำ 2 แนวทางเช่นเดิม ได้แก่ สำหรับนักลงทุนระยะสั้น แนะนำมองหาจังหวะการเข้าซื้อหุ้นทำรอบในกรอบดัชนี 1600-1620 จุด ส่วนนักลงทุนระยะยาวมองว่าสามารถที่จะชะลอการลงทุนใหม่จนเห็นหน้าตาของรัฐบาลชุดใหม่ที่ชัดเจนก่อนได้ มองกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจในช่วงนี้ยังคงเป็นหุ้นปลอดภัย 3 กลุ่มเดิม ซึ่งได้แก่
1) หุ้นขนาดใหญ่ปันผลสูงที่ราคายังคง Laggard ได้แก่ BBL, PTTGC, BCP
2) กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ได้แก่ AOT,AAV,ERW, CENTEL, SPA, BEAUTY, DDD, TKN
3) กลุ่มที่ราคา Price in ข่าวร้ายไปมากแล้ว ได้แก่ BDMS
Politics: ต้องยอมรับว่าปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติอยู่ในภาวะ Wait & See ในช่วงนี้ ก็คือปัจจัยการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะการเลือกตั้งที่รออยู่ในวันที่ 24 มีนาคมนี้ ซึ่งเรามองว่าผลการเลือกตั้งและเสถียรภาพของรัฐบาลชุดใหม่ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่จะชี้ชะตาทิศทางของ SET Index ในช่วงถัดไป ประเมินว่าหากเป็นรัฐบาลผสม ยิ่งมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนฯมากเท่าใด จะเป็นสิ่งที่นักลงทุนยอมรับได้มากเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นขั้วการเมืองไหนก็ตาม
ส่วนแนวรับวันนี้ให้ไว้ที่ 1,620 จุดและแนวต้าน 1,642 จุด
ข่าวเด่น