บมจ.ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำวันศุกร์ที่ 10 พ.ค. 62
"เบรนท์ฟื้นต่อ หลังนักลงทุนมีหวังเรื่องข้อสรุปสงครามการค้า"
+ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับเพิ่ม หลังนาย Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้รับจดหมายจากนาย Xi Jinping ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยความยินดีที่จะหาข้อสรุปเรื่องสงครามการค้า โดยนาย Trump เชื่อว่าข้อสรุปดังกล่าวจะเกิดขึ้นในการประชุมวันที่ 9 พ.ค. 62 ณ กรุงวอชิงตัน ก่อนที่การเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจีนจากร้อยละ 10 เป็น 25 ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 10 พ.ค. นี้
+/- กลุ่มโอเปก (OPEC) ยังคงไม่เร่งเพิ่มกำลังการผลิต แม้อุปทานจะปรับลดจากอิหร่านและเวเนซุเอลาหลังโดนคว่ำบาตรโดยสหรัฐฯ เนื่องจากยังมีความกังวลว่าหากเพิ่มกำลังการผลิตจะทำให้ราคาน้ำมันดิบดิ่งลง โดย OPEC จะดูทิศทางตลาด ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากสงครามการค้า กำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ รวมถึงกำลังการผลิตน้ำมันดิบจากรัสเซียหลังเกิดปัญหาน้ำมันดิบในท่อขนส่งปนเปื้อน
- หุ้นสหรัฐฯ ใน Wall street ตก หลังนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับผลการประชุมเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งสินค้าส่งออกสหรัฐฯ ได้รับแรงกดดันตั้งแต่นโยบาย American First โดยเฉพาะถั่วเหลืองที่เป็นสินค้าส่งออกหลักไปยังประเทศจีน
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในประเทศญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายกังวลเกี่ยวกับโควต้าการส่งออกน้ำมันเบนซินของจีนที่อาจปรับเพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์สามารถดูดซับอุปทานในเอเชีย อย่างไรก็ตาม อุปทานในเอเชียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังยุโรปวางแผนจะส่งสินค้ามายังเอเชียมากขึ้น
ข่าวเด่น