บล.ทรีนีตี้คาด SET Index เปิดตลาดในเกณฑ์ดี สอดคล้องกับตลาดหุ้นทั่วโลก หลังตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯออกมาดีกว่าคาดอย่างมาก บวกกับสัญญาณการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯที่มีพัฒนาการเชิงบวกเล็กน้อย (Interim deal / Phase one deal) ถึงแม้ว่าตัวเลขภาคการผลิตของประเทศสำคัญจะยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 เองก็ตาม คาดดัชนีจะยังคงได้รับกาประคับประคองจากแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันในประเทศต่อไป ซึ่งส่วนหนึ่งประเมินว่าเป็นเม็ดเงิน LTF ที่รออยู่เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ดีปัจจัยจำกัด Upside ที่สำคัญยังคงได้แก่เรื่องของ Valuation เป็นสำคัญ สำหรับปัจจัยสำคัญสัปดาห์นี้แนะนำติดตามการประชุมกนง.ในวันที่ 6 พ.ย.และการประกาศรายชื่อสมาชิกดัชนี MSCI ชุดใหม่ในช่วงปลายสัปดาห์
November: ทั้งนี้สำหรับเดือนพ.ย.นี้ยังคงคาดการณ์ SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1540 - 1650 จุด โดยกรอบแนวต้านที่ 1650 จุดคำนวณจากระดับ Forward PE 15.4 เท่า อิงกับ EPS ปี 2020 ที่ 107 บาท ส่วนกรอบแนวรับที่ 1540 จุดคำนวณจากระดับ Forward PE 14.4 เท่า อิงกับ EPS ปี 2020 ที่ 107 บาทเช่นกัน โดยทั้ง 2 กรณีเป็นกรณีที่รวมผลกระทบของ PE Expansion Effect เข้าไปแล้ว
MPC: เราให้โอกาสราว 60% ที่กนง.จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 1.25% ในการประชุมวันที่ 6 พ.ย.นี้ โดยหากกนง.มีมติไม่ปรับลดในครั้งนี้ เราคาดว่ามีโอกาสถึง 90% ที่กนง.จะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 18 ธ.ค. ซึ่งเป็นการประชุมสุดท้ายของปี
MSCI: แนะนำติดตามการประกาศรายชื่อสมาชิกรอบใหม่ของดัชนี MSCI ในวันที่ 7 พ.ย.นี้ (ตรงกับเช้าตรู่วันที่ 8 พ.ย.ตามเวลาบ้านเรา) ซึ่งล่าสุดเรายังคงคาดการณ์เช่นเดิมว่า ตัวหุ้นที่มีโอกาสถูกเลื่อนชั้นจาก MSCI Small cap เข้าสู่ MSCI Standard Index ได้แก่ GPSC จึงอาจเหมาะสำหรับนักลงทุนประเภทเก็งกำไรระยะสั้นได้ แต่หากประกาศออกมาแล้วไม่มีการเลื่อนตามที่เราคาดไว้ แนะนำให้ขายหุ้นดังกล่าวทันที สำหรับประเด็น MSCI นั้น เรายังคงแนะนำให้ระวังการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติในเดือนนี้ จากประเด็นการเพิ่มน้ำหนักหุ้น A-Shares ของจีนในตะกร้า MSCI EM ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนทั่วโลกต้องลดน้ำหนักหุ้นในประเทศเกิดใหม่อื่นลง
ข่าวเด่น